ผู้จัดงาน AGRITECHNICA ASIA 2020 พร้อมกระตุ้นภาคเกษตรไตรมาสสุดท้ายจัด 2 งาน 2 ประเทศทั้งไทยและพม่า ปลายปีนี้

 

ข้อมูลการจัดงาน

  • “AGRITECHNICA ASIA Live” งานสาธิตเครื่องจักรกลการเกษตร กำหนดจัดงาน 29-30 พฤศจิกายน 2562 ณ ประเทศพม่า
  • “Agrifuture Conference & Exhibition” งานประชุมและงานแสดงเทคโนโลยีเกษตรแห่งอนาคต เตรียมความพร้อมสำหรับโลกธุรกิจเกษตรสมัยใหม่ยุค 5.0 หรือในสภาวะ Digital Disruption กำหนดจัดงาน 2-3 ธันวาคม 2562 ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย

4 มิถุนายน 2562 – องค์กรเกษตรแห่งเยอรมัน (DLG) และ วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค ผู้จัดงาน AGRITECHNICA ASIA 2020 แถลงเปิดตัว 2 งานใหม่ล่าสุด เพื่อกระตุ้นการลงทุนภาคเกษตรทั้งในไทยและภูมิภาคเอเชีย กำหนดจัดงานทั้งสอง ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งนับเป็นกลยุทธ์สำคัญในการช่วยผลักดันการพัฒนาภาคเกษตร โดยมุ่งเน้นวิธีแก้ปัญหาที่ตอบโจทย์การทำเกษตรด้วยเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) และเกษตรดิจิทัลสำหรับเกษตรกรในภูมิภาคโดยเฉพาะ

ภายในงาน AGRITECHNICA ASIA Live 2019 จะมีการสาธิตเครื่องจักรกลการเกษตร ซึ่งงานนี้จะถูกจัดขึ้นใกล้กรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของประเทศพม่า ระหว่างวันที่ 29-30 พฤศจิกายน 2562 และ “Agrifuture Conference & Exhibition” งานประชุมและงานแสดงเทคโนโลยีการเกษตรแห่งอนาคต มีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 2-3 ธันวาคม 2562 ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค กรุงเทพฯ ศูนย์กลางนวัตกรรมดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Jens Kremer รองกรรมการผู้จัดการ DLG service กล่าวว่า “งาน AGRITECHNICA ASIA ซึ่งจัดอย่างต่อเนื่องในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ถือเป็นความสำเร็จของ AGRITECHNICA งานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดขึ้นในประเทศเยอรมนีทุกๆ 2 ปี ปัจจุบัน งาน AGRITECHNICA ASIA จัดมาแล้วถึง 3 ครั้ง และก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้านอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาการทำเกษตรแบบครบวงจรตั้งแต่ก่อนการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรจนถึงหลังการเก็บเกี่ยว และเป็นที่มาของการจัดสองงานล่าสุดปลายปีนี้ ขึ้นในประเทศไทยและพม่า เสมือนเป็นงานแสดงเทคโนโลยีเกษตรและงานประชุมนานาชาติที่เจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะทางและนำเสนอเนื้อหานวัตกรรมจากเทคโนโลยีชั้นสูงที่ประสบความสำเร็จเป็นต้นแบบมาจากต่างประเทศถ่ายทอดเทคโนโลยีผ่านงานที่จัดขึ้นครั้งนี้”

Jens Kremer ยังย้ำอีกว่า “ภายในงานนี้จะเติมเต็มความรู้เรื่องการทำเกษตรแม่นยำสูง เช่น การเกี่ยวข้าว ตัดอ้อย ปลูกข้าวโพด รวมไปถึงการนำเสนอการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรหลายประเภทที่สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะทาง ซึ่งงาน AGRITECHNICA ASIA 2020 ก็จะนำเสนอเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างเต็มรูปแบบด้วย”

Heiko M. Stutzinger กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีเอ็นยูเอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค จำกัด กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีมากที่บริษัท วีเอ็นยูฯ ได้ลงนามร่วมมือกับองค์กรเกษตรแห่งเยอรมัน เมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งผลลัพธ์ได้ประจักษ์แล้วว่า พวกเราทำงานร่วมกันไม่ใช่เพียงแค่ต้องการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรทั่วไป แต่จัดงานเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาให้สอดคล้องกับความต้องการในบางกรณีของแต่ละพื้นที่ด้วย”

Agrifuture Conference & Exhibition ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย

งานประชุมและงานแสดงเทคโนโลยีเกษตรแห่งอนาคต Agrifuture Conference & Exhibition กำหนดจัดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับโลกธุรกิจการเกษตรสมัยใหม่ ในยุค Digital Disruption เป็นครั้งแรกที่กรุงเทพฯ โดยตั้งเป้าเรียนเชิญผู้เข้าร่วมงานประมาณ 1,200 คนจากทั่วภูมิภาคเอเชีย ตั้งคอนเซปท์การจัดงานที่มุ่งเน้นการถ่ายทอดความรู้ผ่านงานประชุมนานาชาติที่มีการงานจัดนิทรรศการแสดงสินค้า และการเชื่อมต่อเครือข่ายทางธุรกิจ ที่เกษตรกร ผู้ประกอบการค้าและผู้รับจ้างให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตร เจ้าของบริษัท เจ้าของสวน/ไร่ ตัวแทนจำหน่าย สหกรณ์เกษตร นักวิจัย นักวิชาการเกษตร นักวิศวกรรมเกษตร และนักวางแผนและพัฒนานโยบายภาครัฐ จะเป็นกลุ่มที่เรียนเชิญให้เข้าร่วมงานในครั้งนี้

ในวันแรกของการประชุมจะเรียนเชิญผู้นำด้านการผลิตและซื้อขายสินค้าเกษตรมาบรรยายใน 2 หัวข้อหลัก 1. แนวโน้มการเติบโตของผลผลิตทางการเกษตรในตลาดโลกและภูมิภาคต่างๆ (Global & Regional Crop Markets) 2. เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) โดยเน้นไปที่เกษตรดิจิทัล ได้แก่ การทำเกษตรแม่นยำสูง ดาวเทียมเพื่อการเกษตร การวางแผนจัดการพื้นที่และวางระบบน้ำ โดยใช้เทคโนโลยี IoT การพัฒนาเมล็ดพันธุ์และดิน การตรวจสอบย้อนกลับ และเครือข่ายการเก็บข้อมูล การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรด้วยการแปรรูปและสร้างแบรนด์ เพื่อขยายสู่ตลาดสุขภาพและความงาม รวมถึงเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต ในขณะที่วันที่สองนั้นจะมุ่งเน้นในส่วนของ “การบริหารจัดการการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร รวมถึงการจัดการทางการเงินและต้นทุนการผลิต (Mechanization & Financial Management)” โดยคาดหวังว่างานแสดงเทคโนโลยีการเกษตรขึ้นสูงที่จะเกิดขึ้นครั้งนี้ จะมีผู้ประกอบการกว่า 30 ราย ที่จัดแสดง Disruptive Technology ของการทำเกษตรในอนาคต

 

AGRITECHNICA ASIA Live ณ กรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่า

การจัดงาน AGRITECHNICA ASIA Live ประเทศพม่า คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 1,000 ราย จากพื้นที่โดยรอบ ซึ่งเป็นจุดภุมิศาสตร์ที่ธนาคารโลกให้กองทุนสนับสนุนโครงการการพัฒนาภาคเกษตร โดยเน้นไปที่การผลิตข้าวตลอดทั้ง 2 วันที่จัดงาน โดยมีเจ้าภาพร่วมการจัดงาน ได้แก่ สถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ (International Rice Research Institute: IRRI) สหพันธ์ข้าวเมียนมา (Myanmar Rice Federation) ธนาคารโลก (World Bank) กรมเกษตรกลวิธาน (Agricultural Mechanization Department) ภายใต้กระทรวงเกษตร ปศุสัตว์ และการชลประทานแห่งประเทศพม่า

 

 

 

 

 


เช่นเดียวกับงาน Mechanization Field Day ที่ถูกจัดขึ้นในประเทศพม่าเมื่อปีที่แล้ว ก็ได้ความร่วมมือจาก IRRI โดยการจัดงานครั้งนี้ มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกร ผู้ประกอบการค้าและให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตร สมาชิกกลุ่มสหพันธ์ข้าวเมียนมา นักวิจัย นักวิศวกรรมเกษตร และช่างเทคนิค รวมถึงผู้ตัดสินใจ และผู้กำหนดนโยบายภาครัฐ ภายในงานจะมีการสาธิตเครื่องจักรกลการเกษตรพร้อมงานเลี้ยงอาหารค่ำในวันแรกและการสัมมนาในวันที่สอง

Katharina Staske ผู้จัดการโครงการ AGRITECHNICA ASIA ของ DLG กล่าวว่า “วัตถุประสงค์ของการจัดงานใหม่นี้ มีการเชื่อมโยงกับการจัดงาน AGRITECHNICA ASIA 2020 ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 7-9 พฤษภาคม 2563 ในกรุงเทพฯ ด้วยเครือข่ายเกษตรกรระหว่างประเทศ ที่เราพัฒนาและขยายความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องมาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา การทำงานร่วมกับองค์กรและผู้เชี่ยวชาญภาคเกษตร ได้สร้างจุดแข็งให้งานทั้ง 2 งาน ที่มุ่งเน้นเรื่องการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด และสร้างโอกาสการมีส่วนร่วมและอภิปรายแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งงานนี้จะเป็นกิจกรรมพิเศษที่นำกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกทั่วภูมิภาคเอเชียและประเทศไทย ที่มีความต้องการแสวงหาความรู้และมีเป้าหมายที่จะยกระดับธุรกิจเกษตรท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ก้าวสู่ยุคดิจิทัล”

DLG มีวิสัยทัศน์ที่จะสนับสนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอาหารและสินค้าเกษตร

DLG เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้ทางวิชาการเกษตรและอาหาร ก่อตั้งขึ้นในปี 1885 โดยกลุ่มวิศวกร นักประพันธ์ และผู้นำองค์กรอย่าง Max Eyth ซึ่งเชื่อมั่นว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมและการใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรกลการเกษตรมีผลกระทบโดยตรงต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาภาคเกษตรกรรม ที่ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาภาคเกษตรจนถึงปัจจุบันนี้

งาน AGRITECHNICA ASIA Live ที่จัดขึ้นใหม่นี้ไม่เพียงแต่จะบรรลุวัตถุประสงค์ของ DLG ในการถ่ายทอดความรู้ข้ามเขตภูมิภาค แต่ยังบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ตามยุทธศาสตร์ในการพัฒนาข้าวของพม่า ที่ต้องการเป็นประเทศที่มีความมั่นคงด้านอาหาร และมีเกษตรกรรายย่อยที่ทำรายได้เป็นสามเท่าของครัวเรือน และรายได้ที่ได้จากการผลิตข้าวจะส่งผลให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อีกทั้งมุ่งมั่นที่จะเป็นฐานการผลิตข้าวอย่างยั่งยืน โดยใช้วิธีการจัดการปัจจัยการผลิตที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตและผลกำไรจากการผลิตข้าวให้สูงขึ้น และตั้งเป้าว่าจะประสบความสำเร็จตามรากฐานที่วางไว้ภายในปี 2573

AGRITECHNICA ASIA จัดโดย DLG และ วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค ซึ่งงาน Agritechnica ถือต้นแบบการจัดงานที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่จัดขึ้นทุก 2 ปี ณ เมืองฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี ซึ่งผู้จัดงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Agritechnica กำหนดจัดงาน “AGRITECHNICA ASIA Live” และ “Agrifuture – Prepare Yourself for Tomorrow’s Agri-Business”  รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับงานนี้ได้ที่:

http://www.agritechnica-asia.com/ata-Live-2  |   http://www.agritechnica-asia.com/agrifuture-conference .

—————————————————————————————————————————-

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ติดต่อ คุณแสงทิพ เตชะปฏิภาณดี โทร. 02-6700900 ต่อ 122 | อีเมล์ [email protected]

รวมผู้นำสู่เวียดนาม ผลักดันอนาคตของอุตสาหกรรมพืชสวน ผ่านงาน HortiFuture Vietnam

กรุงโฮจิมินห์ เวียดนาม – 18 เมษายน 2562 : ผู้นำในอุตสาหกรรมพืชสวนรวมตัวกันที่กรุงโฮจิมินห์ เวียดนามเพื่อจัดงานประชุมสุดยอดนักลงทุนในอุตสาหกรรมพืชสวนเวียดนาม “HortiFuture Vietnam” ซึ่งจัดโดยความร่วมมือระหว่าง บริษัท GrowAsia, PSAV, วีเอ็นยู เอ็กซฺบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค, กระทรวงเกษตรธรรมชาติและการควบคุมอาหารของประเทศเนเธอร์แลนด์ และ กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทของประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2562 ณ โรงแรมเร็กซ์ กรุงโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงวิสัยทัศน์เพื่อนำไปสู่การวางรากฐานของอุตสาหกรรมพืชสวนในอนาคต ภายใต้แนวคิด Future Technologies, Today’s Vision! นวัตกรรมแห่งอนาคต เริ่มต้นที่วิสัยทัศน์ในวันนี้ ซึ่งการจัดงานประสบความสำเร็จตามความคาดหมาย มีผู้เข้าชมงานมากกว่า 150 ท่านที่มาจากอุตสาหกรรมพืชสวนโดยตรง พร้อมที่จะวางแผนและสร้างการเชื่อมโยงระหว่างผู้ปลูกรายใหญ่กับรายย่อยเข้าด้วยกันด้วยเทคโนโลยี มุ่งเน้นการรวมตัวกันจากหลายภาคส่วนเพื่อกระตุ้นให้อุตสาหกรรมพืชสวนเติบโตอย่างยั่งยืนและเพิ่มอัตราการแข่งขันต่อเศรษฐกิจในภาพรวม ทั้งนี้งานครั้งนี้จะประสบความสำเร็จไม่ได้หากปราศจากความร่วมมือจาก คณะทำงานของบริษัท PSAV, ผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมพืชสวนเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศเวียดนาม รวมถึงเครือข่ายอุตสาหกรรมพืชสวนของงาน Horti Asia การประชุมในครั้งนี้เสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนรายย่อยที่กำลังมองหาโอกาสทางการลงทุนและการแข่งขันในอุตสาหกรรมพืชสวนของประเทศเวียดนามและทั่วโลก ซึ่งนอกจากงานประชุมยังมีการจับคู่ธุรกิจท้ายงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีแนวทางสำคัญ 3 ประการ ได้แก่

  1. a) Greater access to finance การจัดการด้านการเงินที่ดีขึ้น
  2. b) Consumer and retailer awareness การสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและผู้ค้ารายย่อย
  3. c) National standards for quality and certification การสร้างมาตรฐานแห่งชาติด้านคุณภาพและการรับรอง

ซึ่งหากนักลงทุนในอุตสาหกรรมนำแนวทางดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ ย่อมสามารถกระตุ้นการลงทุนและเร่งการเติบโตในภาคเกษตรพืชสวนให้มีมูลค่าสูงขึ้นอย่างแท้จริง ซึ่งแนวคิดต่างๆ ภายในงานประชุมครั้งนี้มาจาก บริษัท PSAV ซึ่งทำหน้าที่ประสานงานระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ภายใต้กระทรวงเกษตรของประเทศเวียดนาม

นาย Le Quoc Doanh ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทประเทศเวียดนาม กล่าวว่า “ภาคเกษตรของประเทศเวียดนาม มีความจำเป็นเร่งด่วนในการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ผมมั่นใจว่า งานประชุม HortiFuture ภายใต้แนวคิด Future Technologies, Today’s Vision! นวัตกรรมแห่งอนาคต เริ่มต้นที่วิสัยทัศน์ในวันนี้ เป็นงานประชุมที่มีประโยชน์และเกี่ยวข้องกับกระทรวงของเราอย่างยิ่ง ผมจึงอยากเชิญชวนให้ภาคเอกชนมาร่วมแบ่งปันเทคโนโลยีทางการเกษตรเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมมือกันกระตุ้นการพัฒนาระดับประเทศต่อไป”

 

นาย Nguyen Ngoc Bao ประธานพันธมิตรสหกรณ์แห่งประเทศเวียดนาม กล่าวว่า “งานประชุม HoriFuture เป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับการเชื่อมโยงหน่วยงานของเราไปยังตลาดนักลงทุนรายย่อย อีกทั้งยังได้เรียนรู้จากประสบการณ์การปฏิบัติในการทำเกษตรสมัยใหม่ ซึ่งนับเป็นการเปิดโอกาสให้ VCA เชื่อมต่อกับนวัตกรรมสำหรับอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

 

วิสัยทัศน์และแนวคิดที่โดดเด่นของ งาน HortiFuture มาจากทั้งราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ และ ภาครัฐของประเทศเวียดนาม รวมถึงความร่วมมือจาก Marjolijn Sonnema รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรธรรมชาติและคุณภาพอาหาร, ประธานาธิบดี Nguyen Ngoc Bao จากพันธมิตรสหกรณ์เวียดนาม, Gabrielle Nuijtens จาก Topsic Horticulture, อดีตนักธุรกิจหญิงแห่งปี Meins Prins จาก CEO / ผู้ก่อตั้ง PRIVA ผู้สร้างแรงบันดาลใจเช่น Pan Group, The Fruit Republic, Unifarm, Phanco และ Satra  นอกจากนั้นนักลงทุนในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างยั่งยืน อาทิ Signify Lighting, Rijk Zwaan, PRIVA, Bejo Seeds, Richel, Speedy Access และ Agri Solutions Asia เข้าร่วมงานในครั้งนี้ ซึ่งงาน Horti Future เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงอนาคตของภาคเกษตรพืชสวนในระดับภูมิภาค ซึ่งแม้ว่างานนี้จะจบลงไป แต่นำมาซึ่งการเจรจาซื้อขายลงทุนอย่างต่อเนื่องในอนาคต

—————————————————————————————————————————-

ข้อมูลเกี่ยวกับ บริษัท Grow Asia ติดต่อ Somang Yang อีเมล์ [email protected]

ข้อมูลเกี่ยวกับ บริษัท PSAV ติดต่อ Vu Thu Giang อีเมล์ [email protected]

ข้อมูลงาน HortiFuture หรือ Horti Asia ติดต่อ Manuel Madani อีเมล์  [email protected]

‘HortiFuture Vietnam’ – Future Technologies, Today’s Vision!

On April 11, Industry leaders gathered in Ho Chi Minh City for “HortiFuture Vietnam,” a joint conference organized by GrowAsia, PSAV, VNU Exhibitions Asia Pacific, Ministry of Agriculture, Nature and Food Quality of the Netherlands and the Ministry of Agriculture and Rural Development (MARD) to unite a vision and pathways on the future of the horticulture industry.

The 150 delegates mapped out how to bridge growers and smallholders by new technologies and focus on priorities. The United of many levels within the industry to building a sustainable collective industry becoming competitive as a whole. Championed by the PSAV working group, in cooperation with experts from the Netherlands Horticulture industry and Horti Asia community, ensuring that smallholders benefit from Vietnam’s thriving horticulture industry and that Vietnam retains global competitiveness.

 

 

These pathways supported by 150 delegates:

  1. Greater access to finance
  2. Consumer and retailer awareness
  3. National standards for quality and certification

HortiFuture identified the top 3 pathways to accelerate the emergence of high tech, high-value horticulture sector. Championed by PSAV, which is the public-private coordination mechanism under the Ministry of Agriculture.

Le Quoc Doanh, Vice Minister for Agriculture and Rural Development, Vietnam shared:

“There is an urgent need for Vietnam’s horticulture sector to adapt to climate change. I believe today’s topic of “Future Technology, Today’s vision,” is extremely timely and relevant. I would like to call on the private sector to share technology in order to spur the sector’s development.”

 

Nguyen Ngoc Bao, President of Vietnam Cooperative Alliance Vietnam shared:

“HortiFuture is a very good opportunity for Vietnamese cooperatives to link to markets and to learn from modern farming practices. It gives the VCA the opportunity to connect on customized innovations for the future”

HortiFuture’s distinguished visionaries from the Kingdom of the Netherlands and the Vietnamese government including Marjolijn Sonnema Vice Minister of Agriculture, Nature and Food Quality President of Nguyen Ngoc Bao from the Vietnam Cooperative Alliance, Gabrielle Nuijtens of Topsector Horticulture, Former businesswoman of the year Meiny Prins from CEO/ Founder PRIVA . Inspiring growers like the Pan Group, The Fruit Republic, Unifarm, Phanco, and Satra invest in a sustainable growing industry. HortiFuture is made possible by Signify Lighting, Rijk Zwaan, PRIVA, Bejo Seeds, Richel, Speedy Access and Agri Solutions Asia.

Willem Schoustra, Agricultural counsellor of to Vietnam by the Netherlands Embassy

“I am amazed by the great potential of Vietnam in terms of agriculture, particularly in horticulture. Vietnam’s ambition is to become a strong regional and global player. The Netherlands is proud to have supported HortiFuture Vietnam, and looks forward to being a strong partner with high quality and innovative agricultural sector.”

Somang Yang, Partnership Manager of GrowAsia

“Grow Asia is proud to have supported this milestone event spur collective action towards a more sustainable and inclusive future for Vietnam’s horticulture industry and looks forward to supporting the pathways we identified today.”

Manuel Madani, Project Manager Horticulture of VNU Exhibitions Asia Pacific

“The bridge between innovative growers and smallholders is key to grow the industry collectively. One off the core challenges is to connect and inspire one another. If farmers actually learn from the earlier success I believe amazing milestones can be reached earlier than we expect. Having role model growers that lead by example is very powerful. We hope the leaders will continue to lead and scale technologies throughout the industry.

HortiFuture took place on April 11 at the Rex Hotel in Ho Chi Minh City, Vietnam.

For Grow Asia, please contact Somang Yang:  [email protected]

For PSAV, please contact Vu Thu Giang: [email protected]
For VNU, please contact Manuel Madani: [email protected]

VIV Asia แต่งตั้ง Heiko M. Stutzinger บริหารเครือข่าย VIV worldwide

ประกาศอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562 – Heiko M. Stutzinger (ไฮโก เอ็ม ชตุสซิงเงอร์) ได้รับการแต่งตั้งให้บริหารงานแสดงสินค้าของเครือ VIV worldwide ที่อยู่ในสังกัด บริษัท วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ ยุโรป ภายใต้การบริหารงานของบริษัท จาร์เบอร์

Heiko M. Stutzinger เข้าสู่อุตสาหกรรมด้วยการเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค จำกัด ประจำที่กรุงเทพฯประเทศไทย และปัจจุบันได้รับมอบหมายจากบริษัทต้นสังกัดที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ให้เข้ามาเป็นผู้อำนวยการบริหารงาน VIV worldwide รวมถึงทุกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ VIV Online 24/7

Ruwan Berculo (รูวัน เบอร์คูโล) ผู้อำนวยการ VIV worldwide จะยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม แต่จะมุ่งเน้นด้านการส่งเสริมธุรกิจและเป็นที่ปรึกษาหลักสำหรับงานนิทรรศการใหม่ล่าสุด VIV health & nutrition Asia ในขณะที่ Heiko M. Stutzinger กำลังเรียนรู้รายละเอียดของงาน VIV ทั้งหมด

ภูมิภาคเอเชีย ก้าวขึ้นสู่ผู้นำหลัก

“ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา VIV Asia ได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดและทวีความสำคัญอย่างมาก ดังที่ทราบกันว่า VIV Asia เป็นงานแสดงเทคโนโลยีและสัมมนาสำหรับอุตสาหกรรมปศุสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาทุกงานเครือข่าย VIV worldwide อีกทั้งมีการตัดสินใจเปิดตัวโชว์ใหม่ อย่าง VIV health & nutrition Asia จึงเป็นเหตุผลที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะส่งมอบและถ่ายโอนความเป็นผู้นำของงานวิฟ ในอนาคต ไปยังศูนย์กลางอันเป็นภูมิภาคหลักอย่างเอเชีย ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง” ความเห็นจาก Ruwan Berculo “เพื่อการบริการและพัฒนาการจัดงานให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดและมีประสิทธิภาพ จึงจะเป็นประโยชน์มากกว่าหากผู้นำอยู่ในภูมิภาคที่เป็นหลักในการพัฒนาการจัดงาน จึงนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญครั้งนี้”  Heiko M. Stutzinger กล่าวเสริม

ภูมิภาคยุโรป, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ยังคงเดินหน้าเพิ่มโอกาสทางธุรกิจต่อเนื่อง

ด้วยการลงทุนระดับสูงและนวัตกรรมที่โดดเด่นที่ถูกพัฒนาขึ้นในทวีปยุโรปสร้างมูลค่าและโอกาสทางธุรกิจในภาคธุรกิจงานแสดงสินค้าที่แตกต่างจากในอดีต มีการจัดงานขนาดเล็กลง แต่มุ่งเน้นที่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ระดับโลก เน้นการเพิ่มกลุ่มเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงระหว่างผู้ซื้อรายสำคัญและตัวแทนจำหน่ายทั่วโลก ซึ่ง VIV worldwide ยังคงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อนำเสนองานงานใหม่ๆ ที่มีคุณภาพสูงขึ้นในทวีปยุโรป

ในเวลาเดียวกัน ผู้จัดงาน วิฟ ยังคงตระหนักถึงงานแสดงสินค้าที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสำคัญสำหรับตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ อย่าง งาน VIV MEA ครั้งที่ 3 ที่กำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้ ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในกรุงอาบูดาบี ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ไกลออกไปทางใต้ของทวีป Sub-Sahara ก็เติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกัน VIV worldwide จึงเปิดตัวงาน Poultry Africa เมื่อปี พ.ศ. 2560 เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับการพัฒนางานแสดงสินค้าระหว่างประเทศในแอฟริกาที่เน้นเกี่ยวกับการผลิตโปรตีนจากสัตว์หลากชนิด

ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันและความคาดหวังในทุกทวีปที่จัดงาน บริษัท วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ ยุโรป จะยังคงเป็นศูนย์รวมของทีมที่แข็งแกร่งที่อูเทร็คท์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพราะการผลิตทั้งหมดจะถูกดำเนินการจากส่วนกลางต่อไป

VIV worldwide under new leadership from Asia

VIV worldwide under new leadership from Asia

Effective April 1, 2019, Mr. Heiko M. Stutzinger took full leadership of the VIV worldwide. This includes all trade shows executed by VNU Exhibitions Europe, a fully owned legal entity of Jaarbeurs B.V.

Heiko recently started as Managing Director at VNU Exhibitions Asia-Pacific in Bangkok, Thailand. The directorship of VNU Exhibitions Europe and VIV worldwide, including related events and VIV Online 24/7, will be combined with his role as MD of VNU Exhibitions Asia-Pacific.

Former VIV worldwide Director, Mr. Ruwan Berculo, will continue to be on board and boost new business initiatives like VIV health & nutrition, while making Heiko acquainted with the world of VIV.

Asia in the lead

Over the past few years, VIV activities in Asia have gained significantly in importance. “With VIV Asia as the largest of all VIV trade shows and the recent launch of VIV health & nutrition Asia, it becomes absolutely logical to transfer leadership of VIV to the center of future developments – this is the right moment to make this long-expected transition”, comments Ruwan Berculo. “To serve our fast-growing communities in Asia effectively, it is important to be nearby. Future investments in the regional teams in Asia are also expected, in addition to the transfer of leadership”, adds Heiko M. Stutzinger.

Europe, Middle East and Africa (EMEA) continue to boost opportunities

The high level of investments and outstanding range of innovations developed in Europe create valuable opportunities for trade shows different from the past: smaller, focusing on global product launches and increasingly targeting the connection between selective groups of key buyers and suppliers. VIV worldwide will continue investing in presenting high-quality events in Europe.

At the same time, VIV has realized a proven trade show for the Middle East and North Africa. The 3rd edition of VIV MEA is upcoming and prosperous further growth of the event in Abu Dhabi is secured.

Further South, the Sub-Sahara continent is also growing rapidly. VIV worldwide introduced Poultry Africa in 2017 and will further strengthen its position to develop a Pan-African international trade show for a wide range of animal protein production.

With strong current and expected events in EMEA, VNU Exhibitions Europe will maintain its strong VIV team in Utrecht. All productions in this region will be executed from here.

45,000 นักลงทุนในอุตสาหกรรมปศุสัตว์ ร่วมชมงาน วิฟ เอเชีย การันตีเวทีเจรจาการค้าระดับโลก ด้วยยอดนักลงทุนต่างชาติสูงขึ้นร้อยละ 7

Top reasons to visit VIV Asia 2019

วิฟ เอเชีย เปิดสัปดาห์ธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่การผลิตอาหารสัตว์ไปจนถึงอาหารคน มีนาคมนี้!

ระบบลงทะเบียนออนไลน์ของ วิฟ เอเชีย 2019 พร้อมแล้ว