วิฟ เอเชีย 2021 เลือก อิมแพ็คเป็นสถานที่จัดงานตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นไป

STTA เผย ตลาดการค้าวิทยาศาสาตร์และเทคโนโลยีไทยยังอยู่แถวหน้าของอาเซียน ย้ำภาครัฐต้องร่วมสนับสนุน

เจาะลึกทุกเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับธุรกิจเกษตรแห่งอนาคต ผ่านงาน Agrifuture Conference & Exhibition

เจาะลึกทุกเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับธุรกิจเกษตรแห่งอนาคต ผ่านงาน Agrifuture Conference & Exhibition

ข่าวประชาสัมพันธ์กรุงเทพ : ในยุคของ Disruptive technologies แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ กำลังเข้ามาเป็นปัจจัยในการสร้างขอบเขตและวางรากฐานของอนาคต ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในภูมิภาค ส่งผลให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นศูนย์รวมของนวัตกรรมเกษตรแห่งอนาคต ซึ่งองค์กรเกษตรแห่งเยอรมัน (DLG) และ วีเอ็นยูฯ สองผู้จัดงานเกษตรระดับโลกต่างเล็งเห็นความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้และต้องการกระตุ้นตลาดเกษตร ตลอดจนนำเอาองค์ความรู้ใหม่ๆ เข้ามานำเสนอให้เกษตรกรรายใหญ่ ผู้ซื้อ และผู้ประกอบการได้มีโอกาสนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อแบ่งปันแนวคิดเพื่อร่วมสร้างอนาคต จากเทคโนโลยีสู่ชุมชน อันจะนำมาซึ่งการปรับเปลี่ยนแนวปฏิบัติและพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรทั้งไทยและเอเชียอย่างสมบูรณ์

จากแนวคิดดังกล่าวก่อให้เกิดงานประชุมและงานแสดงเทคโนโลยีเกษตรแห่งอนาคต Agrifuture Conference & Exhibition กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2562 True Digital Park กรุงเทพฯ และ วันอังคารที่ 3 ธันวาคม 2562 Kubota Farm อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับโลกธุรกิจการเกษตรสมัยใหม่ ในยุค Digital Disruption เป็นครั้งแรกที่กรุงเทพฯ โดยตั้งเป้าเรียนเชิญผู้เข้าร่วมงานประมาณ 1,200 คนจากทั่วภูมิภาคเอเชีย มุ่งเน้นการถ่ายทอดความรู้ผ่านงานประชุมนานาชาติที่มีการจัดงานนิทรรศการแสดงสินค้า และการเชื่อมต่อเครือข่ายทางธุรกิจ ที่เกษตรกร ผู้ประกอบการค้าและผู้รับจ้างให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตร เจ้าของบริษัท เจ้าของสวน/ไร่ ตัวแทนจำหน่าย สหกรณ์เกษตร นักวิจัย นักวิชาการเกษตร นักวิศวกรรมเกษตร และนักวางแผนและพัฒนานโยบายภาครัฐ จะเป็นกลุ่มที่เรียนเชิญให้เข้าร่วมงานในครั้งนี้

ในวันแรกของการประชุมจะเรียนเชิญผู้นำด้านการผลิตและซื้อขายสินค้าเกษตรมาบรรยายใน 2 หัวข้อหลัก 1. แนวโน้มการเติบโตของผลผลิตทางการเกษตรในตลาดโลกและภูมิภาคต่างๆ (Global & Regional Crop Markets)

2. เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) โดยเน้นไปที่เกษตรดิจิทัล ได้แก่ การทำเกษตรแม่นยำสูง ดาวเทียมเพื่อการเกษตร การวางแผนจัดการพื้นที่และวางระบบน้ำ โดยใช้เทคโนโลยี IT การพัฒนาเมล็ดพันธุ์และดิน การตรวจสอบย้อนกลับ และเครือข่ายการเก็บข้อมูล การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรด้วยการแปรรูปและสร้างแบรนด์ เพื่อขยายสู่ตลาดสุขภาพและความงาม รวมถึงเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต ในขณะที่วันที่สองนั้นจะมุ่งเน้นในส่วนของการบริหารจัดการการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร รวมถึงการจัดการทางการเงินและต้นทุนการผลิต (Mechanization & Financial Management)” โดยคาดหวังว่างานแสดงเทคโนโลยีการเกษตรขั้นสูงที่จะเกิดขึ้นครั้งนี้ จะมีผู้ประกอบการกว่า 30 ราย ที่จัดแสดง Disruptive Technology ของการเกษตรในอนาคต

นายฮิโรโตะ คิมุระ ประธาน บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด พันธมิตรทางนวัตกรรมของงาน Agrifuture กล่าวว่าวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ คือ การเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตรในภูมิภาคอาเซียน พร้อมเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรด้วยนวัตกรรมเกษตรเพื่ออนาคตเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน มุ่งหวังให้เกษตรกรบริหารจัดการในการทำเกษตรให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต นำไปสู่การสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมทั้งยกระดับภาคเกษตรกรรมของอาเซียนให้มั่นคงอย่างยั่งยืน ส่งผลให้ประชากรทั่วโลกมีความมั่นคงทางอาหารในการบริโภคจากผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และปลอดภัย อีกทั้งสร้างความเชื่อมั่นในการยอมรับความเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก (Global Major Brand) ตามนโยบายของคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ด้วยพันธกิจเดียวกันเราจึงเชื่อมั่นในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน Agrifuture ในครั้งนี้ว่าจะช่วยตอบโจทย์ด้านการพัฒนาการเกษตรแห่งอนาคตอย่างแท้จริง

ราคาบัตรเข้าร่วมฟังสัมมนา Agrifuture Conference & Exhibition

โปรโมชั่น ราคาพิเศษเฉพาะผู้ลงทะเบียนระหว่าง วันนี้ – 30 กันยายน 2562 เท่านั้น!

  • ราคาบัตรเข้าฟังสัมมนา ราคาปกติ 15,000 บาท (480 USD) จ่ายเพียง 12,000 บาท (380 USD)
  • โปรโมชั่นเพิ่มเติมสำหรับชาวไทย ลดเพิ่มเติมอีก 25% จ่ายเพียง 9,000 บาท**

โปรโมชั่น ราคาสำหรับการลงทะเบียนแบบหมู่คณะ

  • ราคาบัตรเข้าชมงาน แบบกลุ่ม 4 ท่าน 36,000 บาท (1,120 USD)
  • สิ่งที่ได้รับ: บัตรเข้าฟังสัมมนาวันที่ 2 ธันวาคม 2562 รวมอาหารเช้ากลางวันอาหารว่างตลอดทั้งวัน, เอกสารงานสัมมนา, เข้าร่วมงาน Networking, ห้องพัก 1 คืนในโรงแรมพันธมิตร พร้อมค่าเดินทางในการเยี่ยมชมฟาร์มเทคโนโลยีตัวอย่างในวันที่ 3 ธันวาคม 2562
  • หมายเหตุ: ค่าลงทะเบียนแบบไม่รวมที่พักกรอก promo code: DISACCOMM

ลงทะเบียนเข้างานได้ที่ www.online-register.org/agrifuture/register/ | ดูรายชื่อวิทยากรที่ www.agritechnica-asia.com/agrifuture-conference/

สนใจสนับสนุนการจัดงาน กรุณาติดต่อ คุณโรซานา ดับเบรรา | โทร. 02-670-0900 ต่อ 128-129 | อีเมล์: [email protected]

ไทยแลนด์แล็บพาชมศูนย์นวัตกรรมไทยยูเนี่ยน

21 สิงหาคม 2562 – กรุงเทพฯ: วีเอ็นยูฯ ผู้จัดงานไทยแลนด์แล็บอินเตอร์เนชั่นแนลพาสื่อมวลชนเยี่ยมชมศูนย์นวัตกรรมไทยยูเนี่ยน ห้องปฏิบัติการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี กระบวนการผลิต นวัตกรรมการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนรู้ลึกถึงการพัฒนารสชาติ เนื้อสัมผัสของอาหาร ก่อนส่งออกจัดจำหน่ายในตลาด พร้อมแสดงอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยสำหรับการวิจัยและค้นคว้าด้านปลาทูน่าโดยเฉพาะ เพื่อสร้างความยั่งยืนด้วยการใช้ทรัพยากรประมงให้มีประสิทธิภาพ ด้วยวิธีการผลิตและเทคโนโลยีทันสมัยทัดเทียมสากล

“นวัตกรรมมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจของไทยยูเนี่ยนให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกระดับ อีกทั้งมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอนาคตของบริษัท เพราะนวัตกรรมจะช่วยสร้างความแตกต่างและความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด” ดร. ธัญญวัฒน์ เกษมสุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรม บริษัท ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าว

คุณอนุชา พันธุ์พิเชฐ ผู้จัดการโครงการ ไทยแลนด์แล็บอินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า “ทางวีเอ็นยูฯ ผู้จัดงานไทยแลนด์แล็บอินเตอร์เนชั่นแนล และงานไบโอ อินเวสเมนท์ เอเชีย เล็งเห็นความสำคัญของห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนส่งเสริมงานวิจัยของนักวิจัยสู่ภาคธุรกิจ และการควบคุมคุณภาพสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าอาหาร ซึ่งมีผลโดยตรงกับผู้บริโภค เราจึงได้จัดงานสื่อมวลชนสัญจรครั้งนี้ขึ้น ห้องปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพและได้รับการรับรองมาตรฐานเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมสู่เวทีโลก และเราต้องขอขอบคุณทางบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ให้โอกาสคณะของเราได้เข้าเยี่ยมชมศูนย์นวัตกรรมในครั้งนี้ สำหรับปีนี้ งานไทยแลนด์แล็บอินเตอร์เนชั่นแนล 2019 พร้อมนำเสนอเวทีแสดงสินค้า และเจรจาธุรกิจด้านเครื่องมือห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์จากทั่วโลก มากกว่า 250 บริษัท รวมกว่า 500 แบรนด์ชั้นนำของโลกมาจัดแสดงในประเทศไทย วันที่ 25-27 กันยายน นี้”

เกี่ยวกับไทยยูเนี่ยน

ศูนย์นวัตกรรมได้รับการออกแบบให้มีความเป็นอิสระ แต่ในขณะเดียวกันก็มีการเชื่อมโยงถึงกัน โดยประกอบไปด้วยห้องปฏิบัติการด้านเคมี ห้องปฏิบัติการด้านโภชนาการ และห้องปฏิบัติการด้านนวัตกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีโรงงานต้นแบบและสำนักงาน ซึ่งมีพื้นที่สำหรับจัดประชุมและงานกิจกรรมต่างๆ

ความคล่องตัว ทันสมัย และดีไซน์ที่เปิดโล่ง เป็นจุดเด่นของพื้นที่ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อทลายสิ่งกีดขวางในการทำงานร่วมกันต่างๆ อีกทั้งส่งเสริมให้เกิดความใกล้ชิดของนักวิจัยและการแลกเปลี่ยนความคิดและเกิดความร่วมมือกัน โดยศูนย์นวัตกรรมนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการใช้ในงานอเนกประสงค์ การควบคุมเสียง การสั่น ความชื้น การระบายอากาศ และความดันอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการแสดงตัวอย่างสินค้าตลอดผนังแก้วสองข้างทาง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเตือนใจและเชื่อมโยงนักวิจัยให้เข้าถึงผู้บริโภคทั่วโลก

นอกจากนี้ การออกแบบศูนย์นวัตกรรมยังได้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างความหลากหลายของบุคลากร เพราะเราเชื่อว่าความหลากหลายต่างๆ เช่น ความสนใจ อายุ เพศ และเชื้อชาติ เมื่อรวมเข้าด้วยกันจะก่อให้เกิดวิธีการคิดที่หลายมุมมอง ไปข้างหน้าและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะขับเคลื่อนเราไปสู่ความสำเร็จ

• ด้วยเงินลงทุนกว่า 600 ล้านบาท ศูนย์วิจัยนวัตกรรมมีเป้าหมายที่จะสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนคิดเป็นร้อยละ 10 ของรายได้บริษัท ภายในปี พ.ศ. 2563
• ศูนย์วิจัยนวัตกรรมได้ขยายพื้นที่เป็น 1,200 ตารางเมตร หรือสองเท่าของพื้นที่เดิม และใช้เงินลงทุนกว่า 100 ล้านบาทในการซื้ออุปกรณ์ด้านวิจัยใหม่
• ในปีพ.ศ. 2558 งานวิจัยหลักเรื่องทูน่าได้รับการยกย่องในระดับประเทศจากรัฐบาลไทย
• สนับสนุนให้เกิดความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ด้านนวัตกรรมกับสถาบันต่างๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชนทั่วโลก

เกี่ยวกับไทยแลนด์แล็บอินเตอร์เนชั่นแนล 2019

งานไทยแลนด์แล็บ อินเตอร์เนชั่นแนล 2019 ครั้งที่ 9 จะจัดขึ้นในวันที่ 25-27 กันยายน 2562 ณ ไบเทค บางนา เป็นงานแสดงเทคโนโลยี เครื่องมือและบริการสำหรับห้องปฏิบัติการทาง หรือห้องแล็บครบวงจร พร้อมเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยี ด้านเครื่องมือวิเคราะห์ เคมีภัณฑ์ และความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ ตัวอย่างงานสัมมนาที่น่าสนใจ ได้แก่

– นวัตกรรมชุดทดสอบอาหาร เพื่อความปลอดภัยที่ยั่งยืน โดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
– แนวโน้มการวินิจฉัยการติดเชื้อไวรัสในอนาคต โดยสมาคมไวรัสวิทยาประเทศไทย
– กัญชาเสรีในมิติทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ทำได้จริงหรือ? โดยสถาบันอาหารร่วมกับสมาคมเอโอเอซี ประเทศไทย
– แนวโน้มและโอกาสทางธุรกิจของธุรกิจสุขภาพในยุคดิจิทัล ตลาดชีววิทยาศาสตร์ในระดับโลก และการแพทย์แม่นยำ โดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน)
– ห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์สินค้าปศุสัตว์เพื่อการส่งออก โดยสำนักตรวจสอบคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์
– การสร้างแนวปฏิบัติการจัดการสารเคมีในห้องปฏิบัติการของอุตสาหกรรมเคมีในประเทศไทย โดยสำนักพัฒนาศักยภาพนักวิทยาศาสตร์ห้องปฏิบัติการ กรมวิทยาศาสตร์บริการ

ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสามารถลงทะเบียนเข้างานฟรีที่ www.thailandlab2019.com โดยงานไทยแลนด์ แล็บ อินเตอร์เนชั่นแนล 2019 ระหว่างวันที่ 25-27 กันยายน 2562 ณ ไบเทค กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 10:00-17:00 น.

____________________________________________________________________________________________

รายละเอียดการจัดงาน ติดต่อ www.thailandlab.com หรือ โทร 0 2670 0900
ฝ่ายสื่อสารการตลาด ติดต่อ คุณแสงทิพ เตชะปฏิภาณดี อีเมล์ [email protected]

อิลเด็กซ์พร้อมดึงนักลงทุนสู่ตลาดปศุสัตว์อินโดนีเซีย จับตาเศรษฐกิจเติบโตสูงถึง 5.2% ในปีนี้

อินโดนีเซียเป็นประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และใหญ่เป็นอันดับที่ 16 ของโลก มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่น่าจับตามอง นับตั้งแต่การเอาชนะวิกฤตการเงินในเอเชียในช่วงปลายปี 1990 GDP ต่อหัวของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก $ 807 ในปี 2000 เป็น $ 3,877 ในปี 2018 วันนี้อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับสี่ของโลก และ เศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 10 ของโลกทั้งในแง่ของกำลังซื้อและตลาดที่แข็งแกร่ง โดยมีการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียคาดว่าจะสูงถึง 5.2% ในปี 2562 ในแง่ของภาคการเกษตรและปศุสัตว์มีส่วนร่วมประมาณ 12% ของ GDP ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมและบริการเพิ่มประมาณ 43% ในการผลิต ในแง่ของต้นทุนการผลิตอินโดนีเซียอยู่ที่อันดับที่สี่สำหรับเนื้อวัว อันดับที่สามสำหรับแกะและแพะ อันดับสี่สำหรับการผลิตไก่เนื้อ ซึ่งมีต้นทุนการผลิตต่อกิโลกรัมน้ำหนัก น้อยกว่าประเทศในสมาชิกอาเซียน ซึ่งทำให้ตลาดปศุสัตว์ในอินโดนีเซียมีหลายช่องทางในการพัฒนาเพื่อสร้างโอกาสในการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ

ซึ่งการพัฒนาหรือลดต้นทุนการผลิตจะมีประสิทธิภาพเมื่อมีเทคโนโลยีชั้นสูงที่เหมาะสมกับการใช้งานในฟาร์มการผลิต ซึ่งผู้จัดอย่าง วีเอ็นยูฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญในตลาดนี้ และพยายามที่จะผลักดันให้เกิดการพัฒนา ตลอดจนการเชื่อมโยงตลาดปศุสัตว์อินโดนีเซีย กับ นานาประเทศ โดยมีการจัดงาน “อิลเด็กซ์ อินโดนีเซีย 2019” ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 18-20 กันยายน 2562 นี้ ณ ฮอลล์ 3 และ 3A ศูนย์นิทรรศการและการประชุมนานาชาติ ICE กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย ภายในงานผู้เข้าชมงานจะได้พบกับผู้ประกอบการมากกว่า 250 บริษัทชั้นนำ จาก 30 ประเทศ นำเสนอเทคโนโลยี เครื่องมือเครื่องใช้ ตลอดจนการแบ่งปันความรู้ผ่านงานประชุมและงานสัมมนา จัดโดย บริษัทชั้นนำ ภาครัฐ สมาคมที่เกี่ยวข้อง และมหาวิทยาลัยในประเทศอินโดทีเซีย โดยงานอิลเด็กซ์ อินโดนีเซียจะนำเสนอครอบคลุมธุรกิจสัตว์ปีก สัตว์เนื้อ สัตว์น้ำ มีการแบ่งโซนบูทแสดงสินค้าภายในงานออกเป็น โซนสุขภาพสัตว์, การจัดการโรงเรือน/ฟาร์ม, อาหารสัตว์, การผสมพันธุ์สัตว์, การฟัก, การฆ่าและแปรรูป, การวิจัยในห้องปฏิบัติการ ครั้งแรกกับการเปิดตัวโซน การกำจัดขยะในอุตสาหกรรม และพิเศษสุดกับโซน แสดงสัตว์มีชีวิต โดยมีฟาร์มผู้ผลิตจากอินโดนีเซียนำสัตว์ในฟาร์มมาแสดงให้ผู้ซื้อได้เห็นถึงคุณภาพก่อนตัดสินใจซื้อขายธุรกิจกันต่อไป

ภายในงานยังนำเสนอโซนพาวิลเลี่ยนนานาชาติ จากประเทศ จีน, เกาหลีใต้ และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งครั้งนี้ร่วมตัวกันมาเปิดตัวเป็น
Foodtech Indonesia เป็นการรวมตัวกันของบริษัทชั้นนำจากเนเธอร์แลนด์มากกว่า 10 บริษัท มารวมไว้ที่โซนนี้ ซึ่งอิลเด็กซ์ อินโดนีเซียรวมผู้ประกอบการชั้นนำมากมายมาไว้ที่เวทีเจรจาธุรกิจเดียว อาทิ บริษัท Big Dutchman, Behn Meyer, Buhler, CJ, DSM, Evonik, Famsun, Gemlang group, Japfa Comfeed Indonesia, Jefo, Linco, Marel, Moba, Nabel, Petersime, Pokphand, Romindo ฯลฯ ในส่วนของผู้ประกอบการไทย มีทั้งสิ้น 7 บริษัท ได้แก่ บริษัท Novus International (Thailand) Co., Ltd., Clear Water Enterpries Ltd., K.S.P Equipment Co., Ltd., Siam Water Flame Co., Ltd., A&S Thai Work Co., Ltd.
IntelliFarm และ P.P.F. Poultry Equipment Co., Ltd ซึ่งต่างพร้อมที่จะนำเอาเทคโนโลยีและเครื่องมือใหม่ๆ ไปนำเสนอกับผู้ซื้อในตลาดอินโดนีเซียครั้งนี้ ผู้จัดคาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่าหมื่นคน พร้อมด้วยผู้ซื้อรายสำคัญที่ถูกเชิญมาจากทั่วเอเชีย

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือ การเข้าร่วมงานสัมมนาในหัวข้อที่น่าสนใจ อาทิ งานสัมมนาเรื่อง การจัดการขยะที่ยั่งยืน, มาตรฐานการควบคุมดูแลสุขภาพสัตว์ โดยกระทรวงเกษตรแห่งอินโดนีเซีย, งานสัมมนาสำหรับสัตวแพทย์ในหัวข้อด้านสุขภาพสัตว์ โดย FAVA, การดูแลสุขภาพสัตว์ปีกในยุคปราศจากยาปฏิชีวนะ โดย Jefo, การคาดการณ์อย่างแม่นยำในฟาร์ม โดย Evonik, ความปลอดภัยของอาหารจากสัตว์ปีก โดย BEHN MEYER, การบำรุงรักษาระบบห้องเย็น โดย CPI – PORTACOOL, Ecobiol®: โปรไบโอติกจำเป็นต่อลำไส้ของสัตว์ปีก โดย Evonik (SEA) Pte.Ltd., แนวโน้มและการแก้ปัญหาความร้อนที่มากขึ้นในบริเวณปากน้ำของอินโดนีเซีย โดย CPI – LB WHITE, ประโยชน์ของการผสมผสานน้ำมันหอมระเหย Next Enhance 150” สำหรับสัตว์ปีกโดย Novus International, การนำเทคโนโลยีจากเดนมาร์กมาประยุกต์ใช้ในการผลิตปศุสัตว์ของเอเชีย โดย SKIOLD A / S และ การส่งเสริมฟาร์มอัจฉริยะและแผนพัฒนาที่ยั่งยืน โดย EPIS เป็นต้น งานสัมมนาดังกล่าวเปิดให้ผู้เข้าชมงานเข้าร่วมฟรี เพียงลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อจับจองที่นั่งได่ที่ www.ildexregis.com เตรียมตัวให้พร้อมแล้วพบกันที่อิลเด็กซ์ อินโดนีเซีย 2019 ระหว่างวันที่ 18-20 กันยายน 2562 นี้ ณ ฮอลล์ 3 และ 3A ศูนย์นิทรรศการและการประชุมนานาชาติ ICE กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.ildex-indonesia.com หรือโทร. 02-670-0900

_______________________________________

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรุณาติดต่อ คุณแสงทิพ เตชะปฏิภาณดี อีเมล์ [email protected] โทร. 02-6700900 ต่อ 122
www.vnuasiapacific.com

To connect the global and local livestock markets and fully drive the Indonesian economy at ILDEX

Indonesia is the largest economy in Southeast Asia, and the 16th largest in the world. It is a diverse archipelago nation with more than 300 ethnic groups and has charted impressive economic growth since overcoming the Asian financial crisis of the late 1990s. The country’s per capita GDP has steadily risen from $807 in 2000 to $3,877 in 2018. Today, Indonesia is the world’s fourth most populous nation, the world’s 10th largest economy in terms of purchasing power, and a member of G-20. Supported by robust investment, stable inflation, and a strong job market, Indonesia’s economic growth is forecast to reach 5.2% in 2019.

The Indonesian economy has made tremendous progress over the last two decades. In terms of sectors, agriculture and livestock contribute about 12% to its GDP while industry and services add approximately 43% to its output. In terms of production cost, Indonesia was only at the fourth rank for beef, third for sheep and goat and fourth for broiler production per kilogram live weight compared to other member ASEAN countries. The livestock market in Indonesia has many channels to develop in order to create more opportunities to export to international markets.

Find the best full supply chain solutions from Feed to Meat at ILDEX Indonesia!

New venue *ICE* – New opportunities – New segments

The high technology used in manufacturing and production farms will be on display, with an extensive range of local and international top brands who offer new technology, innovation and equipment that is appropriate for each type of livestock farm. The international livestock, dairy, meat processing, and aquaculture exposition called ‘ILDEX Indonesia 2019’ is the best platform where you can find everything in the supply chain from feed to meat.

The 4th edition, ILDEX Indonesia 2019, will be held between 18 and 20 September 2019 at Hall 3&3a, ICE, Jakarta, Indonesia. In regard to the growth strategy of the show, the organizer, VNU Exhibitions Asia Pacific, has decided to move the show to a new venue, the Indonesia Convention Exhibition ICE BSD, which is the biggest convention and exhibition center in Indonesia. At the exhibition, visitors can meet 250 companies from 30 countries who are showcasing their latest technology and innovations and launching their new products in the 10,000 sq.m. exhibition space. The main business sectors at ILDEX include Animal Health, Animal Housing & Farm Equipment, Animal Feed & Ingredients, Breeding & Genetics, Incubation & Hatchery, Slaughter to Processing, LAB & IT, and the special sector at this edition is ‘Waste Management’.

Unlimited connection with industry people in one place

In the past, 85% of visitors to the exposition were local visitors and 15% were international visitors. It has become a new challenge for organizers and VNUEAP to encourage more foreign participants by creating the Hosted Buyer Program by match-making real buyers with our onsite exhibitors. At this edition, more than 200 key buyers from South-east Asia have been invited and will participate at ILDEX Indonesia. We don’t only focus on buyers; we also want to encourage other interested parties to visit the exhibition, such as cattle, poultry and dairy farmers, people in the Aquaculture, Agribusiness, Agrochemical, Distributor, wholesale, and Import & Export businesses, nutritionists, veterinarians and other professionals and post-graduates who will drive the future of the livestock business. We not only focus on local people, but also on international buyers who are looking for local partners with whom they can conduct international business. The livestock market in Asia has become more well-known and we believe that the Indonesia market is a large and important market in which foreign players hope to expand their business with the participation of local companies.

Visitors can expand and build connections with professionals and management from the top local and international companies in the industry such as Big Dutchman, Behn Meyer, Buhler, CJ, DSM, Evonik, Famsun, Gemlang group, Japfa Comfeed Indonesia, Jefo, KSP Equipment, Linco, Marel, Moba, Nabel, Petersime, Pokphand, Romindo and more. At this edition, there will be three international pavilions for China, South Korea and The Netherlands together with the FoodTech Indonesia pavilion.

Waste management & ILDEX Animal Live Show are highlights

Another new feature at this edition of ILDEX is ‘Waste Management’. In this zone, new technology will be presented and knowledge will be shared on how to manage waste in livestock farms and how to create new business strategies for livestock production. We also welcome fourteen local and international organizations who you can consult about for your business, including KAHPA (Korea Animal Health Products Association), the Food Export Association of the Midwest USA, and ABRA, the Brazilian Renderers Association.

Furthermore, the exhibition will provide a rest area for visitors to conduct business matching, to discuss business, to make new connections with the industry people at onsite networking events. Guests can also relax in the rest area, read global industry magazines in the ‘Media Library zone’ and also enjoy the “ILDEX Animal Live Show’ in the loading area of Hall 3. In this zone, a variety of live animals from local farms will be presented including cattle, sheep, chicken and duck. The purpose of this zone is for education, to present the quality of local production, and to encourage buyers to trust before buying. However, it will not be possible to cook or try the products in this zone. At present, 7 booths are expected to showcase in this zone.

Variety of Conferences

  • Waste Management and best practices
  • One Health Seminar by the Directorate General of Livestock Services and Animal Health (DGLSAH), Ministry of Agriculture Republic of Indonesia, FAO and OIE representatives
  • FAVA Seminar on Animal Health by Directorate General of Livestock Services and Animal Health, Researcher at the Research Center for Veterinary  Science and Head of the Animal Health Office of the East Nusa  Tenggara
  • Managing bird health in an era without antibiotics – a vet’s perspective. By Dr. David Marks, JEFO
  • Precision Livestock Farming by David Simmons – Sales Director, Evonik Porphyrio NV
  • Immunowall – Natural Intervention for AGP Replacement & Food Safety in Poultry by Ekachai Jenwitheesuk DVM, Ph.D – Technical Manager SEA & Pacific, ICC Brazil, BEHN MEYER
  • How to Perform Maintenance on Your Cooling Pad by Kishan Nazr & Jimmy Wong, CPI – PORTACOOL
  • Ecobiol® : An Evidence based Probiotic to Improve Gut Health and Tackle Pathogenic Challenges in Poultry by Dr. Mubarak Ali – Senior Technical Manager, Evonik ( SEA ) Pte.Ltd., Singapore
  • Modern Trends in Heating Solutions and Microclimate in Indonesia by Denis Matveev, CPI – LB WHITE
  • A Positive Effect by Using Essential Oils to Solve Respiratory Problem in Poultry by Akhir Pebriansyah, Ph.D – Regional Product Manager, Intracare B.V, BEHN MEYER
  • Benefits of the essential oil blend “Next Enhance 150” for poultry by Dr. Suk Hyeon Cho, Novus International
  • Adoption of Modern Danish Technology with SKIOLD for optimum Livestock production by Dr Sussie Ketit – REGIONAL DIRECTOR SKIOLD A/S, Skiold
  • ‘Smart farm Industry promotion and Sustainable Development Plan’ by EPIS

 

Pre-registration online is available at www.ildexregis.com | To get more information about www.ildex-indonesia.com please contact [email protected] | Tel. +662 6700900 Ext. 122 (Mrs.Rainy)

ILDEX to open in the Philippines

Press Release Bangkok-Manila, 6 June 2019 – VNU Exhibitions Asia Pacific Co., Ltd. ILDEX Exhibitions, the International livestock, dairy, meat processing and aquaculture exposition, premieres in the Philippines at the “ILDEX Forum, Philippines” on Thu. 27th June 2019 at Corregidor Room B, Century Park Hotel, Manila, the Philippines.

In a report by the Philippine Institute for Development Studies (PIDS), the livestock and poultry sectors present “a glimmer of light in local agriculture that is projected to continuously grow in the next decade”. The report also noted the consistent growth of the livestock and poultry industry, which has contributed positively to the economy even with less support from the government than other agricultural commodities. There is a clear indication that the Philippine government would like to reform the livestock sector and there is growing domestic demand.

This event aims to be a platform of expertise sharing knowledge on sustainable management in the pig and poultry business.  International speakers from global companies will present their views in three different categories including breeding, feed, and farm management. Chris Jackson, Export Manager at UKTAG Technology for Agriculture and Genetics will present ‘Optimum profitability in pig breeding depends on an extended genetic base and artificial insemination’ and the Buhler Group will share information on the topic ‘Proper feed mill equipment in pig farms can improve feed quality and operational efficiency’. Last but not least, Big Dutchman Philippines will share their strategy to encourage pig farmers to engage in the sustainable management of waste. ILDEX Forum expects to welcome livestock industry leaders as well as investors to also expand their business opportunities.

ILDEX Forum, Philippines will be held on Thursday 27th June 2019 at Corregidor Room B, Century Park Hotel, Manila, Philippines from 16.30 to 18.35 hrs. Registration is available at REGISTRATION LINK by 14 June 2019 on a first come, first served basis.

 

Ms.Panadda Kongma, Head of Compretence at the Center Livestock of VNU Exhibitions Asia Pacific said “This essentially shows the readiness of the Philippine government to support and make a fresh start for the country’s livestock industry, which definitely creates great opportunities for the inclusion of technologies in improving the productivity of the livestock industry. Therefore, businesses can enjoy a new beginning in the Philippine livestock industry. The global and regional joint Livestock venture is also a promising means to inspire and earn domestic trust at the early stage”.


About ILDEX Exhibitions

ILDEX Indonesia 2019: 18-20 September 2019 at ICE, Jakarta, Indonesia. 

ILDEX Vietnam 2020: 18-20 March 2020 at SECC, Ho Chi Minh City, Vietnam.

For more information and to find the best location to be a part of us, please visit www.ILDEX.com

Communication team: Saengtip (Rainy), [email protected], +662 6700900 Ext.122

Sasiwimon (TonToey), [email protected], +662 6700900 Ext.216


About VNU Exhibitions Asia Pacific Co., Ltd.

VNU Exhibitions Europe from the Netherlands and TCC Exhibition and Convention Center from Thailand, have entered into a joint venture and founded VNU Exhibitions Asia Pacific Co., Ltd. (VNUEAP), based in Bangkok, Thailand.  VNUEAP now focuses on the development of business-to-business exhibitions in the South East Asian region, in particular in livestock, agriculture and science laboratory technology.

Livestock Profile: The company has been running livestock shows, especially in animal protein production, for more than 30 years,. The largest trade show is ‘VIV Asia’ – the No.1 international trade show ‘From Feed to Food for Asia’ in collaboration with VNU Exhibitions Europe.  In 2020, we will establish a new show called ‘VIV health & nutrition Asia’ in Bangkok, where we will focus on feed & pharmaceutical ingredients, genetics and hi-tech farm solutions.   

Apart from the animal protein production show in Bangkok, VNUE AP has also developed ILDEX Exhibitions in Vietnam and Indonesia.  ILDEX’s objective is to serve the local markets. We bring in international expertise to complement the local experts especially in fast-growing countries like Vietnam, Indonesia and soon the Philippines.

At the international conference, we, together with Positive Action Publications from the UK, co-organized Pig Poultry& Dairy Focus Asia (PPDFA). The conference is Asia’s leading technical conference that takes place in Bangkok every 2 years.

Livestock trade shows calendar:

ILDEX Indonesia 2019: 18-20 September 2019 at ICE, Jakarta (www.ildex-indonesia.com)

PP&DFA 2020: 13-15 January 2020 at AVANI Riverside Hotel, Bangkok, Thailand (http://www.positiveaction.info/ppdfa2020)

VIV health & nutrition 2020: 15-16 January 2020 at BITEC, Thailand (http://vivhealthandnutrition.nl/)

ILDEX Vietnam 2020: 18-20 March 2020 at SECC, Ho Chi Minh City, Vietnam (www.ildex-vietnam.com)

VIV Asia 2021, 10-12 March 2021 at Bangkok, Thailand (www.vivasia.nl)

อิลเด็กซ์ พร้อมลุยตลาดปศุสัตว์ พิลิปปินส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ กรุงเทพฯ – มะนิลา: 7 มิถุนายน 2562

วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค ผู้จัดงานแสดงเทคโนโลยีและเครื่องมือสำหรับอุตสาหกรรมปศุสัตว์ ผลิตภัณฑ์นม กระบวนการแปรรูปเนื้อสัตว์ และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ พร้อมลุยตลาดปศุสัตว์ในประเทศฟิลิปปินส์ โดยเตรียมการจัดงานสัมมนาเชิงวิชาการโดยรวมบรรดานักลงทุน บริษัทชั้นนำ หน่วยงาน สมาคม และสื่อมวลชนที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าร่วมงาน “อิลเด็กซ์ ฟอรั่ม ฟิลิปปินส์” จัดเป็นครั้งแรกที่กรุงมะนิลา ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน 2562 ณ ห้อง Corregidor B โรงแรมเซนจูรี่ ฟาร์ค กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์

จากข้อมูลของสถาบันการศึกษาเพื่อพัฒนาประเทศฟิลิปปินส์ (PIDS) รายงานว่า แนวโน้มของอัตราการเติบโตภาคธุรกิจปศุสัตว์และสัตว์ปีก คาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงทศวรรษหน้า ซึ่งการเติบโตนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งและส่งผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจในประเทศ แม้ว่าทางภาครัฐบาลไม่ได้เข้ามาสนับสนุนมากหนักเมื่อเทียบกับธุรกิจภาคเกษตรอื่นๆ แต่ก็ยังมีข้อบ่งชี้ชัดเจนว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ต้องการที่จะปฏิรูปภาคปศุสัตว์ที่มีอุปทานภายในประเทศสูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 จึงเป็นที่มาของการริเริ่มเข้ามาจัดงานในตลาดปศุสัตว์ของประเทศฟิลิปปินส์ครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีแบ่งปันข่าวสารความรู้ในด้านการจัดงานธุรกิจปศุสัตว์อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะด้านการผลิตหมูและสัตว์ปีกโดยเชิญวิทยากรจากบริษัทชั้นนำระดับโลกมาร่วมบรรยายภายในงานครั้งนี้มากถึง 3 ท่านซึ่งแต่ละวิทยากรจะมานำเสนอมุมมองที่ต่างกัน แบ่งเป็นหัวข้อตั้งแต่การเพาะพันธุ์สัตว์ การเลี้ยงสัตว์ ระบบการจัดการอาหารสัตว์และการวางแผนจัดการฟาร์ม ในหัวข้อ “การสร้างผลกำไรจากการปรับปรุงสัตว์ด้วยการผสมเทียมและพันธุศาสาตร์ที่เหมาะสม” นำเสนอโดย Chris Jackson ผู้จัดการฝ่ายการส่งออก บริษัท UKTAG เทคโนโลยีเพื่อการเกษตรและพันธุศาสาตร์ วิทยากรท่านต่อมาคือ ตัวแทนจากกลุ่มบริษัท Buhler ที่จะมาแบ่งปันในหัวข้อ “อุปกรณ์การเลี้ยงสัตว์ในฟาร์มหมูที่สามารถปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพการเพาะเลี้ยงสัตว์” และปิดท้ายด้วย Patrick Ty กรรมการผู้จัดการ บริษัท Big Dutchman Philippines ที่จะมาพูดในหัวข้อ “กลยุทธ์การส่งเสริมจัดการของเสียในฟาร์มหมูอย่างยั่งยืน” ด้วยการสนับสนุนจากธนาคารท้องถิ่น งานอิลเด็กซ์ ฟอรั่ม ในครั้งนี้จึงคาดหวังที่จะต้อนรับผู้นำ นักลงทุน ในอุตสาหกรรมปศุสัตว์ที่กำลังมองหาโอกาสทางการขยายธุรกิจต่อไป 

  

งาน อิลเด็กซ์ ฟอรั่ม ฟิลิปปินส์ จะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน 2562 ณ ห้อง Corregidor B โรงแรมเซ็นจูรี่พาร์ค ณ กรุง มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ระหว่างเวลา 16.30 – 18.35 น. โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมงานได้ที่ https://forms.gle/FA2d8mKicLsACJtu7 หรือแจ้งความจำนงที่ [email protected] ภายในวันที่ 14 มิถุนายนนี้

หัวหน้าสายงานธุรกิจปศุสัตว์ ประจำ วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค – คุณปนัดดา ก๋งม้า กล่าวว่า “จากข้อเท็จจริงดังกล่าวได้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของรัฐบาลในประเทศฟิลิปปินส์ที่ให้สัญญานเชิงบวกและพร้อมที่จะเข้ามาสนับสนุนธุรกิจปศุสัตว์ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเปิดโอกาสให้เกิดการรวมเทคโนโลยีในสายการผลิตและการปรับปรุงธุรกิจภาคปศุสัตว์ เพื่อดึงนักลงทุนเข้าสู่ประเทศและได้รับความไว้วางใจในระยะแรกเริ่มนี้”


ข้อมูลงาน อิลเด็กซ์

งานอิลเด็กซ์ อินโดนีเซีย 2019 วันที่ 18-20 กันยายน 2562 ณ ศูนย์นิทรรศการ ICE กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย

งานอิลเด็กซ์ เวียดนาม 2020 วันที่ 18-20 มีนาคม 2563 ณ ศูนย์นิทรรศการ SECC กรุงโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม

ข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซค์ www.ILDEX.com

ฝ่ายสื่อสารการตลาด ติดต่อ คุณแสงทิพ เตชะปฏิภาณดี [email protected] โทร. 02-6700900 ต่อ 122

—————————————————————————————————————————-

เกี่ยวกับ บริษัท วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค

บริษัท วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค เกิดจากการร่วมหุ้นกันระหว่าง บริษัท วีเอ็นยู ยุโรป ประเทศเนเธอร์แลนด์ และ บริษัทกลุ่ม TCC Group ในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่กรุงเทพ ประเทศไทย ดำเนินธุรกิจด้านการเป็นผู้จัดงานแสดงสินค้าและงานประชุมนานาชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับภาคธุรกิจปศุสัตว์ เกษตรกรรม และเครื่องมือห้องปฏิบัติการ

ในส่วนของสายงานธุรกิจปศุสัตว์ เป็นธุรกิจที่เรามีความชำนาญมากที่สุด ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปี โดยมีงานแสดงเทคโนโลยีธุรกิจปศุสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย คือ “วิฟ เอเชีย” งานเดียวที่นำเสนอทุกขั้นตอนตั้งแต่เมล็ดพันธุ์จนถึงอาหาร และอีกหนึ่งงานที่กำลังเกิดขึ้นในปี 2020 นี้ คือ “วิฟ เฮลท์ แอนด์ นูทริชั่น เอเชีย” ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเน้นไปทาง อาหารสัตว์, พันธุศาสตร์ และแนวทางแก้ปัญหาการจัดการฟาร์มชั้นสูง ซึ่งทั้งสองงานนี้จัดขึ้นที่ กรุงเทพ ประเทศไทย

ในส่วนของงานปศุสัตว์ในตลาดต่างประเทศ ทางบริษัทได้สร้าง งาน “อิลเด็กซ์” ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีปศุสัตว์ที่เน้นไปที่ตลาดท้องถิ่น โดยจัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ 2 ปี ณ ประเทศอินโดนีเซีย และ เวียดนาม นำความพร้อมที่และความเชี่ยวชาญในการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติไปจัดในประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางปศุสัตว์อย่างต่อเนื่อง อย่าง อินโดนีเซีย, เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ในเร็วๆ นี้

ในส่วนของงานประชุมนานาชาติ บริษัทร่วมมือกับพันธมิตรสื่อมวลชนชั้นนำระดับโลกอย่าง Positive Actions Publications จัดงานประชุมทางเทคนิคขั้นสูงสำหรับธุรกิจ หมู, สัตว์ปีก, ผลิตภัณฑ์นม สำหรับภูมิภาคเอเชีย หรือ PPD&FA เวียนมาจัดเป็นประจำทุกๆ 2 ปี ณ กรุงเทพ ประเทศไทย รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.vnuasiapacific.com

Agritechnica Asia organisers launch new agricultural events in Thailand and Myanmar

 

Agritechnica Asia organisers launch new agricultural events in Thailand and Myanmar

  • “Agritechnica Asia live – Field Demonstrations of Agricultural Machinery” in Myanmar 29th and 30th November
  • “Agrifuture Conference & Exhibition – Prepare Yourself for Tomorrow’s Agri-Business” in Thailand 2nd and 3rd of December

Frankfurt/Main, Germany, 24th May 2019 – The organisers of Agritechnica Asia, the DLG (German Agricultural Society) and VNU Exhibitions Asia Pacific, today announced they will launch two new events, located in Thailand and Myanmar, for the agricultural sector in South East Asia before the end of 2019. These new activities are part of the bold strategy for the Thailand-based Agritechnica Asia trade fair, to facilitate farming solutions to local farmers in this region.

The dedicated farming events, “Agritechnica Asia live – Field Demonstrations of Agricultural Machinery” will take place near Myanmar’s capital city of Naypyitaw on 29th and 30th November, and “Agrifuture Conference & Exhibition – Prepare Yourself for Tomorrow’s Agri-Business” is scheduled to be held in Bangkok, Thailand, on 2nd and 3rd of December.

“Agritechnica Asia based in Bangkok is a successful off-shoot of Agritechnica, which is the world’s largest agricultural machinery trade fair and is held in Germany every two years. Agritechnica Asia is now in its third edition and has already established itself as a leading platform in South East Asia for agricultural machinery solutions. These two new events in Thailand and Myanmar are similar to technology showcase road shows with specific and highly technical content brought directly to the farmers at their door step,” said Jens Kremer, Deputy Managing Director of DLG Service.

“They fulfil a need for more knowledge in a specific area such as rice cultivation or specific mechanisation issues. Agritechnica Asia acts to bring this together,” added Kremer.

“We are pleased that the cooperation signed three years ago between VNU Exhibitions Asia Pacific and DLG is bearing fruit. We are working together to not only offer solutions to the farming sector but we are also tuning in to needs that are in some cases very local,” commented Heiko Stutzinger, Managing Director of VNU Exhibitions Asia Pacific.

New event in Thailand – Agrifuture Conference & Exhibition

The new Agrifuture Conference & Exhibition event will be held at a venue in the city of Bangkok and is expected to attract about 1,200 attendees from across Asia-Pacific. The format is an international conference with accompanying side-exhibition and networking sessions. Farmers, machinery operators/owners/contractors, dealers, co-operatives, researchers and technicians, and decision and policy makers are among those expected to attend.

The first day of the event will include formal conference sessions on two topics, “Regional & global markets” and “Smart crop management & post-harvest technology”, while the focus on the second day is on “Mechanisation & Financing”. The exclusive exhibition taking place throughout the event is expected to feature about 30 exhibitors of disruptive technology for future farming.

DLG’s Katharina Staske, project manager of Agritechnica Asia, said the new events have been introduced to complement Agritechnica Asia, which takes place for the third time from 7th to 9th May 2020 in Bangkok.

“Along with our international farmers’ network, the DLG has expanded its relationship with farmers and expert organizations in South East Asia, and notably Thailand and Myanmar,” added Staske. “It is through working with these organizations that we have come up with two new events that will focus on specific arable production areas that require targeted technical solutions.”

“These are exclusive events that bring a selected group of farmers together where knowledge acquisition is the main focus, and alongside we offer an exclusive platform for organisations to promote their products and services.”

New event in Myanmar – “Agritechnica Asia live”

The new Agritechnica Asia live event in Myanmar is expected to attract about 1,000 visitors from the area around its venue, a location also hosting a World Bank-funded Agricultural Development Support Project. Rice production will be central to the two-day event, with co-partners that include the International Rice Research Institute (IRRI), the Myanmar Rice Federation (MRF) and the World Bank (WB). The country’s Agricultural Mechanisation Department (AMD) of the Ministry of Agriculture, Livestock and Irrigation will be the official host.

Like last year’s Mechanisation Field Day, partnered by IRRI, and also held in Myanmar, the event is expected to attract farmers, machinery operators/owners, mechanisation service providers, MRF members, researchers and technicians, and decision and policy makers. The programme will feature a field demonstration and networking dinner on the first day and a seminar on the second day.

 

 

 


DLG promotes technical and scientific progress in the food and farming sectors

The DLG is a politically independent, non-profit organisation promoting technical and scientific progress and knowledge transfer in the food and farming sectors. It was founded in 1885 by engineer, writer and visionary Max Eyth, who was convinced that the industrial revolution, and mechanisation in particular, would have a major impact on the agricultural sector. Eyth’s ideas remain at the centre of the DLG’s activities to this day.

The new Agritechnica Asia live event not only meets the DLG’s objectives of transferring knowledge across borders, but is in line with the stated goal of the Myanmar Rice Sector Development Strategy. The country aims to be a food-secure nation where smallholder farming households triple their household incomes, including income derived from rice and rice-based farming, thereby enjoying a decent standard of living comparable to that of urban dwellers. The sustainable intensification of rice production, using efficient and effective natural resource management methodologies for higher rice productivity and profitability, is the cornerstone for achieving this goal by 2030.

Agritechnica Asia is organised by the DLG and VNU Exhibitions Asia Pacific, and is a spin-off from the highly successful Agritechnica, the world’s largest trade fair for farm machinery held every two years in Hanover, Germany. Agritechnica Asia’s South East Asian team will organise the new “Agritechnica Asia live – Field Demonstrations of Agricultural Machinery” and “Agrifuture Conference & Exhibition – Prepare Yourself for Tomorrow’s Agri-Business” events, and more information about these can be found online at

http://www.agritechnica-asia.com/ata-Live-2  |   http://www.agritechnica-asia.com/agrifuture-conference .

—————————————————————————————————————————-

Media contact:
Malene Conlong
Tel: +49 69 24788237
Email: [email protected]