กรุงเทพฯ, 19 มีนาคม 2568 – งาน Meat Pro Asia ปิดฉากลงเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ตลอดระยะเวลาสามวันมีผู้เข้าร่วมชมงานจำนวน 9,848 คน จาก 99 ประเทศและภูมิภาค และได้รวบรวมผู้แสดงสินค้าชั้นนำในอุตสาหกรรมกว่า 150 ราย งานนี้ต่อยอดความสำเร็จจากงานครั้งแรก เพื่อตอกย้ำความสำเร็จในฐานะผู้จัดแสดงสินค้าสำหรับผู้ประกอบการด้านบรรจุภัณฑ์และการแปรรูปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กรุงเทพฯ, 19 มีนาคม 2568 – งาน Meat Pro Asia ปิดฉากลงเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ตลอดระยะเวลาสามวันมีผู้เข้าร่วมชมงานจำนวน 9,848 คน จาก 99 ประเทศและภูมิภาค และได้รวบรวมผู้แสดงสินค้าชั้นนำในอุตสาหกรรมกว่า 150 ราย งานนี้ต่อยอดความสำเร็จจากงานครั้งแรก เพื่อตอกย้ำความสำเร็จในฐานะผู้จัดแสดงสินค้าสำหรับผู้ประกอบการด้านบรรจุภัณฑ์และการแปรรูปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กรุงเทพฯ, 19 มีนาคม 2568 – งาน Meat Pro Asia ปิดฉากลงเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ตลอดระยะเวลาสามวันมีผู้เข้าร่วมชมงานจำนวน 9,848 คน จาก 99 ประเทศและภูมิภาค และได้รวบรวมผู้แสดงสินค้าชั้นนำในอุตสาหกรรมกว่า 150 ราย งานนี้ต่อยอดความสำเร็จจากงานครั้งแรก เพื่อตอกย้ำความสำเร็จในฐานะผู้จัดแสดงสินค้าสำหรับผู้ประกอบการด้านบรรจุภัณฑ์และการแปรรูปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Bangkok, 19 March 2025. Wrapping up on 14 March, Meat Pro Asia welcomed a record 9,848 visitors from 99 countries and regions over three days, as industry players looked to source from 150 exhibitors. The show built on the success of the first edition to further cement its status as an essential event in the trade fair calendar for packaging and processing players in Southeast Asia.
Bangkok, 30 January 2025 – VNU Asia Pacific is delighted to announce its partnership with Schenker (Thai) Ltd., appointing them as the first Official Clean Freight Forwarder Partner for 2025. This strategic collaboration marks a milestone in the exhibition and conference industry, advancing sustainability through the integration of innovative clean logistics solutions.
As part of its commitment to hosting environmentally responsible events, VNU Asia Pacific is dedicated to balancing economic growth with environmental preservation. For 2025, the company has prioritized reducing carbon emissions across its operations through optimized logistics processes and renewable energy adoption.
Schenker (Thai) Ltd. has established itself as a leader in sustainable logistics, with a robust Environmental, Social, and Governance (ESG) strategy focusing on Clean Logistics. Key initiatives include transitioning to low-emission vehicles, optimizing transportation routes to lower fuel consumption, and investing in renewable energy infrastructure. As a member of the EV100 initiative, Schenker has pledged to integrate electric vehicles into its fleet by 2030.
The new Clean & Green Solutions will be launched at VIV Asia, Meat Pro Asia and HAN Asia during in March 2025 at IMPACT and the first phase will be continued through 2025 events organized by VNU Asia Pacific. The solutions also involved the cooperation with technologies from BYD and Next Point.
Ms. Panadda Kongma, Vice President–Business, VNU Asia Pacific, stated that: “This partnership reflects our commitment to minimizing the carbon footprint of our logistics operations while promoting sustainability and innovation in the events industry. We are excited to work with Schenker (Thai) Ltd. and confident that our collaboration will set a benchmark for others to follow. Together, we aim to drive environmental responsibility and create meaningful impact for society.”
Mr. Saran Limvorasak, Head of Land Transport–Mekong Cluster, Schenker (Thai) Ltd. stated that “We strongly believe that sustainability goes beyond carbon reduction—it’s about making a lasting impact on the communities we serve. Through our partnership with VNU Asia Pacific, we are advancing logistics solutions that contribute to a cleaner environment, healthier cities, and a more responsible supply chain. This collaboration demonstrates how industry leaders can come together to drive meaningful change for society.”
Mr. Peter Kim (Kim Trong Yen), Head Fairs & Events/Special Logistics – Mekong Cluster, Schenker (Thai) Ltd. stated that “The transformation of exhibition logistics is underway, shifting towards clean energy solutions to minimize environmental impact. The integration of electric and hybrid vehicles, along with advanced material handling equipment in exhibition halls, is revolutionizing freight transportation and on-site logistics. These innovations significantly reduce carbon emissions, enhance operational efficiency, and lower fuel consumption, setting a new standard for sustainable logistics. At SCHENKER, we are committed to leading this transformation, continuously innovating and optimizing our logistics solutions to drive a greener, more sustainable future for the exhibition industry.”
_________________________________________________________________________________
For more information, please contact:
Communications Team | Email: [email protected]
Tel: +662 111 6611 Ext. 330–335 | Website: www.vnuasiapacific.com
กรุงเทพฯ, 30 มกราคม 2568 – วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค ประกาศความร่วมมือกับ บริษัท เช้งเก้อร์ (ไทย) จำกัด แต่งตั้งให้เป็นพันธมิตรผู้ให้บริการโลจิสติกส์รักษ์โลกอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี 2568 ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าและการประชุม โดยมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านการนำโซลูชันโลจิสติกส์ที่สะอาดและทันสมัยมาใช้
ด้วยพันธกิจในการจัดงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค มุ่งมั่นที่จะสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สำหรับปีนี้ บริษัทได้ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในทุกกระบวนการ ด้วยการปรับปรุงกระบวนการโลจิสติกส์และการใช้พลังงานทดแทน
บริษัท เช้งเก้อร์ (ไทย) จำกัด เป็นผู้นำในด้านโลจิสติกส์ที่ยั่งยืน โดยมีแผนยุทธศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ที่เน้น “โลจิสติกส์สะอาด” โดยโครงการสำคัญ ได้แก่ การเปลี่ยนไปใช้ยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษต่ำ การเพิ่มประสิทธิภาพเส้นทางขนส่งเพื่อลดการใช้เชื้อเพลิง และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานทดแทน นอกจากนี้ เช้งเก้อร์ ยังเป็นสมาชิกของโครงการ EV100 และได้ให้คำมั่นว่าจะเปลี่ยนไปใช้ยานพาหนะไฟฟ้าในฟลีทรถขนส่งทั้งหมดภายในปี 2573 (2030)
โซลูชัน Clean & Green ถือเป็นหนึ่งในแนวคิดหลักที่จะเปิดตัวภายในงาน VIV Asia, Meat Pro Asia และ HAN Asia ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมีนาคม 2568 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีแผนขยายการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีไปยังงานอื่นๆ ตลอดปี 2568 ด้วยความร่วมมือทางเทคโนโลยีจาก BYD และ Next Point
นางสาวปนัดดา ก๋งม้า รองประธานฝ่ายธุรกิจ บริษัท วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค กล่าวว่า “ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ พร้อมทั้งส่งเสริมความยั่งยืนและนวัตกรรมในอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้า เรารู้สึกยินดีที่ได้ร่วมงานกับ บริษัท เช้งเก้อร์ (ไทย) จำกัด และมั่นใจว่าการเป็นพันธมิตรครั้งนี้จะเป็นแบบอย่างให้แก่อุตสาหกรรมอื่นๆ เพื่อขับเคลื่อนความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม และสร้างผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างแท้จริง”
นายศรัณย์ ลิมวรศักดิ์ ผู้บริหารฝ่ายขนส่งทางบก บริษัท เช้งเก้อร์ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า “เราเชื่อมั่นเสมอว่า การสร้างความยั่งยืนในธุรกิจไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน แต่ยังหมายถึงการสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนต่อชุมชนและสังคม การร่วมงานกับ VNU ในครั้งนี้ได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมขนส่ง ผ่านการส่งเสริมคุณภาพอากาศที่สะอาด สิ่งแวดล้อมที่ปลอดมลพิษ และการสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนให้กับห่วงโซ่อุปทาน ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้นำในอุตสาหกรรมสามารถร่วมมือกันเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ทรงพลังและส่งผลกระทบเชิงบวกในระยะยาว”
นายปีเตอร์ คิม ผู้บริหารฝ่ายงานแสดงสินค้า บริษัท เช้งเก้อร์ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า “อุตสาหกรรม โลจิสติกส์สำหรับงานแสดงสินค้า กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ด้วยการเปลี่ยนมาใช้ พลังงานสะอาด เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การนำ ยานพาหนะไฟฟ้าและไฮบริด รวมถึง เครื่องมือขนถ่ายสินค้าขั้นสูง มาใช้ในอาคารจัดแสดงสินค้าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการ ขนส่งและขนถ่ายสินค้า ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และช่วยลดการใช้น้ำมันอย่างมีนัยสำคัญ กำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับการขนส่งที่ยั่งยืน ที่ เช้งเก้อร์ เรามุ่งมั่นเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ ด้วยการพัฒนาและปรับปรุงโซลูชันโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมสร้าง อนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน สำหรับอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้า”
________________________________________________________________________________________
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
ทีมสื่อสารองค์กร วีเอ็นยูฯ | อีเมล: [email protected]
โทร: 02 111 6611 ต่อ 330–335 | เว็บไซต์: www.vnuasiapacific.com
_________________________________________________________________________________
For more information, please contact:
Communications Team | Email: [email protected]
Tel: +662 111 6611 Ext. 330–335 | Website: www.vnuasiapacific.com
กรุงเทพฯ ประเทศไทย – อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในเสาหลักสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ด้วยศักยภาพอันมหาศาลในการสร้างรายได้และการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมายังประเทศไทย ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางชั้นนำระดับโลก ในปีนี้ วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค และ Royal Dutch Jaarbeurs ซึ่งมีประสบการณ์อันยาวนานในการจัดงานแสดงเทคโนโลยีในหลากหลายอุตสาหกรรม พร้อมเปิดตัวเวที B2B ครั้งแรกในเอเชีย ที่มุ่งเน้นการสร้างอนาคตด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย งาน Travel & Tech Asia 2025 (ทราเวล แอนด์ เทค เอเชีย 2025) จะเป็นศูนย์กลางที่เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตเทคโนโลยีได้เชื่อมโยงกับผู้เล่นในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยตรง เพื่อร่วมกันยกระดับอุตสาหกรรมสู่อนาคต งานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-3 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะผู้จัดงานได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว Travel & Tech Asia 2025 อย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจาก คุณจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงาน พร้อมจัดเสวนาพิเศษในหัวข้อ “อนาคตของเทคโนโลยีการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย” ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญและผู้นำในอุตสาหกรรมร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ ได้แก่
– คุณนัวร์ อาหมัด ฮามิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (PATA)
– คุณปริวรรต วงษ์สำราญ รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA)
– คุณมิเชล เกา ผู้จัดการประจำภูมิภาค กลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงและจีน Booking.com
– คุณอังคณา ตั้งกระจ่าง ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด Landmark Lancaster Hotel Group
– คุณปนัดดา ก๋งม้า รองผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค (ตัวแทนผู้จัดงาน)
คุณจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวเเละกีฬา กล่าวว่า “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามุ่งมั่นที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยอย่างยั่งยืนผ่านการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ โดยเรามุ่งพัฒนาระบบข้อมูลและข้อมูลท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพ เชื่อมต่อระหว่างหน่วยงานของรัฐและภาคเอกชนอย่างไร้รอยต่อ ความร่วมมือนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย งาน Travel & Tech Asia 2025 เป็นเวทีสำคัญในการแสดงศักยภาพและความพร้อมของไทยในฐานะศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวและเทคโนโลยีในภูมิภาค รวมทั้งเน้นย้ำถึงการมุ่งมั่นของเราในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่บูรณาการเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยในระดับโลก”
คุณปนัดดา ก๋งม้า รองผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค กล่าวว่า “การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจการท่องเที่ยวในยุคนี้ ซึ่งต้องปรับตัวให้ทันกับความคาดหวังใหม่ ๆ ทั้งในด้านความยั่งยืน ความปลอดภัย การจองที่สะดวกและรวดเร็ว รวมถึงการบริการแบบเรียลไทม์ผ่าน AI ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่นตั้งแต่ต้นจนจบ” พร้อมเน้นย้ำว่า Travel & Tech Asia 2025 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับอนาคตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
คุณนัวร์ อาหมัด ฮามิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (PATA) กล่าวว่า “เทคโนโลยีได้เปลี่ยนแปลภูมิทัศน์ของการท่องเที่ยวในเอเชีย โดยนำเสนอโอกาสใหม่ๆ ทางด้านนวัตกรรมและแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด ด้วยการบูรณาการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เราเชื่อว่าเรากำลังตั้งมาตรฐานใหม่ให้กับการเดินทางที่ส่งผลดีต่อด้านสิ่งเเวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็เพิ่มประสบการณ์ให้เเก่นักท่องเที่ยว เทคโนโลยีจะช่วยส่งเสริมความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว“
คุณปริวรรต วงษ์สำราญ รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) กล่าวเสริม “อนาคตของการท่องเที่ยวในไทยขึ้นอยู่กับการที่เรามุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ ด้วยกลุ่มคนที่ทำงานด้านเทคโนโลยีที่มีความตื่นตัว รวมทั้งการสนับสนุนของนโยบายรัฐบาล และจุดแข็งที่มีอยู่ของไทย ทำให้เรากำลังก้าวหน้าไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีการท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชีย เป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะขับเคลื่อนให้ประเทศก้าวไปอยู่ในแถวหน้าของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว”
คุณมิเชล เกา ผู้จัดการประจำภูมิภาคประจำกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงและจีน Booking.com กล่าวว่า ” ทาง Booking.com ได้มีการใช้ AI มากกว่าทศวรรษ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ทำให้แผนการเดินทางเป็นไปได้ง่ายยิ่งขึ้นและสามารถจัดการได้อย่างเฉพาะบุคคลได้มากยิ่งขึ้น เทคโนโลยี่ช่วยให้เราบรรลุภารกิจของเรา ในการทำให้ทุกคนสามารถสัมผัสโลกและตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้เร็วกว่าที่เป็นมา โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบันของธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งภาคธุรกิจไม่สามารถมองข้ามบทบาทการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีได้ เนื่องจากเทคโนโลยีช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่จะช่วยให้เกิดการแข่งขันในตลาดอย่างมีศักยภาพ และนี่เป็นส่วนสำคัญอย่างต่อการเติบโตโดยรวมของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
คุณอังคณา ตั้งกระจ่าง ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด Landmark Lancaster Hotel Group กล่าวว่า “ในอุตสาหกรรมการโรงแรม การบริการถือเป็นหัวใจสำคัญ โดยเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการยกระดับคุณภาพการบริการและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ซึ่งทำให้เราสามารถดูแลลูกค้าแต่ละรายได้ดียิ่งขึ้น เเละในมุมมองของเรา เทคโนโลยีไม่ได้เข้ามาแทนที่ “human touch” ในการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า แต่กลับช่วยเสริมศักยภาพในการมอบประสบการณ์ที่ดี ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในธุรกิจของเรา ทั้งนี้ความแม่นยำของเทคโนโลยียังช่วยลดข้อผิดพลาดของคนในการทำงานอีกด้วย ในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจโรงเเรม เราจึงให้ความสนใจกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และตั้งตารอที่จะนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้กับการทำงาน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและความพึงพอใจของลูกค้าให้สูงยิ่งขึ้น”
Travel & Tech Asia 2025 ไม่เพียงแต่นำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แต่ยังมุ่งเน้นการสร้างโอกาสและแพลตฟอร์มสำหรับนวัตกรรมและโซลูชันที่ตอบโจทย์การเดินทางในทุกมิติ ภายในงานจะมีการจัดแสดงนวัตกรรมจากบริษัทชั้นนำกว่า 60 บริษัท พร้อมคาดการณ์ว่าจะดึงดูดผู้เข้าชมงานกว่า **2,000 คน โดยไฮไลต์สำคัญจะประกอบด้วย เทคโนโลยีและโซลูชันการเดินทางที่ยั่งยืน เทคโนโลยี AI อัจฉริยะ ระบบโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะสำหรับธุรกิจการท่องเที่ยว ประสบการณ์เสมือนจริง (AR/VR) เพื่อการตัดสินใจที่ง่ายขึ้น FinTech เพื่อการชำระเงินที่สะดวกและปลอดภัย
นอกจากนี้ งานยังได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานสำคัญ ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (PATA), สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และหน่วยงานชั้นนำอื่น ๆ
เตรียมพบกับอนาคตของการท่องเที่ยวระดับเอเชียในงาน Travel & Tech Asia 2025 ระหว่างวันที่ 2-3 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเทคโนโลยีที่สนใจเข้าร่วมงาน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อีเมล: [email protected] โทร: 02-211-1661 ต่อ 250 หรือเว็บไซต์: https://travelandtechasia.com
___________________________________________________________________________________
สำหรับบรรณาธิการและสื่อมวลชน ติดต่อ [email protected] โทร. 02-1116611 ต่อ 330-335
Bangkok, Thailand – The tourism industry is one of Thailand’s key economic pillars, driving substantial revenue and attracting visitors from around the globe to its world-renowned destinations. Recognized as a global leader in the tourism sector, Thailand is set to host a groundbreaking event to shape the future of travel technology.
Travel & Tech Asia 2025, a collaborative initiative by VNU Asia Pacific and Royal Dutch Jaarbeurs, renowned for organizing cutting-edge technology exhibitions, will debut as Asia’s premier B2B platform focused on pioneering innovations in travel. The event will take place from July 2-3, 2025, at Queen Sirikit National Convention Center (QSNCC), Bangkok.
The official press launch of Travel & Tech Asia 2025 was recently held, graced by Mr. Jakkaphon Tangsutthitham, Vice Minister for Tourism and Sports, Ministry of Tourism and Sports, who presided over the ceremony. The event featured a special panel discussion titled “The Future of Travel Technology in Asia”, joined by industry leaders and experts, panelists including:
Mr. Jakkaphon Tangsutthitham, Vice Minister for Tourism and Sports, Ministry of Tourism and Sports, addressed, “The Ministry of Tourism and Sports is committed to sustainably advancing Thailand’s tourism industry through the adoption of cutting-edge technology. We are focused on developing an efficient system for tourism data and information, facilitating seamless and comprehensive connections between public agencies and the private sector. This collaboration will drive economic growth in Thailand. The Travel & Tech Asia 2025 event serves as a significant platform to showcase Thailand’s readiness and potential as a regional hub for tourism and technology. It also highlights our dedication to building an integrated network of cooperation, which will further develop Thailand’s tourism industry on a global scale”
Ms. Panadda Kongma, Vice President-Business, VNU Asia Pacific, emphasized, “The transition to a fully digital era is critical for the tourism industry. Businesses must adapt to new expectations in sustainability, security, seamless booking processes, and real-time AI-driven services, ensuring smooth travel experiences from start to finish.” She highlighted that Travel & Tech Asia 2025 will serve as a transformative milestone for the industry.
Mr. Noor Ahmad Hamid, Chief Executive Officer, Pacific Asia Travel Association (PATA), stated, “Technology is reshaping the tourism landscape in Asia, offering unprecedented opportunities to innovate and directly tackle challenges. By integrating technological advancements, I believe we are setting new standards for travel that positively impact environmental, social, and economic aspects while enhancing the visitor experience. Technology will help leverage sustainability in tourism.”
Mr. Pariwat Wongsamran, Deputy Executive Director of Innovation System, National Innovation Agency (NIA), remarked, “The future of Thailand’s tourism hinges on our commitment to embracing technology and innovation. With our vibrant tech community, supportive government policies, and inherent strengths, Thailand is well on its way to becoming a leading hub for travel technology in Asia. This strategic focus is poised to drive significant advancements in the sector, propelling the country to the forefront of the tourism industry.”
Ms. Michelle Gao, Regional Manager for the Mekong and China, Booking.com, stated, “Booking.com’s journey with AI for over a decade has been about leveraging technology to make travel more intuitive and personalized. This helps us fulfill our mission to make it easier for everyone to experience the world and respond to travelers’ needs faster than ever before. In today’s dynamic landscape, the travel and tourism industry cannot afford to overlook the transformative role of technology. It empowers businesses of all sizes to operate efficiently, which is essential for small and medium-sized enterprises to compete effectively and contribute significantly to the overall growth of the travel and tourism sector.”
Ms. Angkana Tangkrachang, Area Director of Sales & Marketing, Landmark Lancaster Hotel Group, emphasized, “In the hospitality industry, service is paramount, and technology plays a vital role in enhancing that service by streamlining operations and allowing us to focus more on personalization. Far from replacing the human touch, technology enhances our capability to deliver it, which is absolutely essential in our field. The accuracy of technology also helps minimize human error, which in turn increases client satisfaction. We are keenly observing the latest advancements and are eager to see how they will integrate into our daily operations to further improve efficiency and elevate guest satisfaction”
Travel & Tech Asia 2025 aims to bridge cutting-edge technology providers with stakeholders in the tourism sector to collectively propel the industry toward a more innovative future. Travel & Tech Asia 2025 is expected to feature over 60 leading companies showcasing cutting-edge technologies and solutions. The event anticipates drawing more than 2,000 attendees, with highlights including: Sustainable travel technologies and solutions, Smart AI technologies, Intelligent infrastructure systems for tourism businesses, Immersive experiences via AR/VR for enhanced decision-making and FinTech innovations for secure and seamless payment solutions.
Special thanks to the official support of prominent organizations, including the Ministry of Tourism and Sports, the Tourism Authority of Thailand, Pacific Asia Travel Association (PATA), National Innovation Agency (NIA), and other leading entities.
Be a part of the future of Asian tourism at Travel & Tech Asia 2025, from July 2-3, 2025, at QSNCC, Bangkok.
For more information, please contact us via email at [email protected], call +66 2-211-1661 ext. 250, or visit https://travelandtechasia.com.
___________________________________________________________________________________
For Editors and Media Inquiries, please contact: [email protected] or 66 2-111-6611 ext. 330-335 (VNU Asia Pacific)
กรุงเทพฯ – 22 มกราคม 2025 – เริ่มแล้ววันนี้กับงานประชุมสุดยอดด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งภูมิภาค Cybersec Asia x Thailand International Cyber Week 2025 (โดยความร่วมมือกับ NCSA) เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ งานสำคัญนี้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ระดับชั้นนำ ผู้กำหนดนโยบาย และผู้นำในอุตสาหกรรมจากประเทศไทยและเอเชียทั้งหมด เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือ แบ่งปันข้อมูลเชิงกลยุทธ์ และกำหนดทิศทางในการพัฒนาความปลอดภัยไซเบอร์ในภูมิภาค
พิธีเปิดเริ่มต้นด้วยคำกล่าวต้อนรับจาก คุณปนัดดา ก๋งม้า รองประธานฝ่ายธุรกิจ วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค (ผู้จัดงาน) ซึ่งได้กำหนดแนวทางของงานในครั้งนี้ ต่อด้วย คุณภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการแห่งประเทศไทย (TCEB) ที่เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการพัฒนางานธุรกิจระหว่างประเทศ จากนั้น คุณ อธูล คูมาร์ผู้อำนวยการสภาความปลอดภัยข้อมูลแห่งอินเดีย (DSCI) ได้กล่าวถึงบทบาทสำคัญของความร่วมมือข้ามพรมแดนในการยกระดับมาตรฐานความมั่นคงทางไซเบอร์ระดับโลก
พิธีปิดท้ายด้วยคำกล่าวจาก พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ที่เน้นถึงความสำคัญของการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้แข็งแกร่ง จากนั้นมีการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยโดรน หุ่นยนต์สุนัข และการแสดงแสงสีเพื่อแสดงความยินดีกับการเปิดงานอย่างเป็นางการ ก่อนเยี่ยมชมพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ ซึ่งสะท้อนถึงจิตวิญญาณของความร่วมมือและนวัตกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของงาน Cybersec Asia x Thailand International Cyber Week 2025 อย่างแท้จริง
งาน Cybersec Asia 2025 พร้อมต้อนรับผู้เข้าร่วมงานจากทั่วโลกกว่า 4,000 ราย นำเสนอบูธผู้ประกอบการกว่า 140 ราย และวิทยากรระดับโลกกว่า 100 คน งานนี้ถือเป็นศูนย์กลางสำหรับความร่วมมือที่สำคัญของอุตสาหกรรม ผลักดันการสร้างเครือข่ายเชิงกลยุทธ์ และการแบ่งปันความรู้ที่ทันสมัยผ่านงานแสดงสินค้าที่ครอบคลุมพื้นที่ 1,800 ตารางเมตร พร้อมพาวิลเลียนจาก สิงคโปร์ อินเดีย อิสราเอล จีน และไต้หวัน เน้นโซลูชันความปลอดภัยไซเบอร์ล่าสุดจากผู้นำระดับโลก สร้างประโยชน์สูงสุดให้กับผู้เข้าร่วมเพื่อสร้างการเชื่อมต่อที่ทางธุรกิจผ่านงานประชุมและกิจกรรมต่างๆ
พลอากาศตรีอมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมาเราได้เห็นการเพิ่มขึ้นของภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ซับซ้อน เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการร่วมมือกัน ผ่านโปรแกรมการฝึกอบรม การเสริมสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ และการตั้งมาตรฐานที่แข็งแกร่ง ซึ่งงาน Cybersec Asia x Thailand International Cyber Week 2025 สร้างแรงกระเพื่อมอย่างยิ่งต่อการพัฒนาตลาดความปลอดภัยไซเบอร์ ทุกธุรกิจและบุคลากรสามารถเติบโตได้อย่างปลอดภัยในภูมิทัศน์ดิจิทัลที่กำลังพัฒนา ทั้งยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการสร้างระบบนิเวศความปลอดภัยไซเบอร์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นฟอรัมที่สำคัญสำหรับการสำรวจภัยคุกคามที่เกิดขึ้นใหม่ การแสดงโซลูชันล้ำสมัย และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วน”
คุณปนัดดา ก๋งม้า รองประธานฝ่ายธุรกิจ วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค (ผู้จัดงาน) กล่าวเสริมว่า “การจัดงาน Cybersec Asia 2025 ในกรุงเทพฯ ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างความรู้และศักยภาพทางเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของเรา แต่ยังนำมาซึ่งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ซึ่งคาดว่าจะสูงกว่า 100 ล้านบาทจากธุรกิจและการลงทุนที่เกิดขึ้นที่นี่ทั้งภายในงานและต่อเนื่องไปหลังจบงาน เรามีผู้แสดงสินค้ามากกว่า 140 รายจาก 15 ประเทศและได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ลงทะเบียนล่วงหน้าจาก 70 ประเทศทั่วโลก ชี้ให้เห็นว่า กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับนวัตกรรมความปลอดภัยไซเบอร์”
คุณ อธูล คูมาร์ ผู้อำนวยการสภาความปลอดภัยข้อมูลแห่งอินเดีย (DSCI) สนับสนุนว่า “การร่วมมือกันเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาความปลอดภัยไซเบอร์ระดับโลก ผมภูมิใจที่จะนำเสนอการแก้ปัญหาล้ำสมัยจากพาวิลเลียนสตาร์ทอัพของอินเดีย ซึ่งขับเคลื่อนโดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยการส่งเสริมโปรแกรมการแลกเปลี่ยนและการสำรวจความปลอดภัยของ AI, 5G และการเข้ารหัสควอนตัม เราสามารถสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่ปลอดภัย”
คุณภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “ในยุคดิจิทัล ความปลอดภัยไซเบอร์เป็นรากฐานสำคัญของเสถียรภาพและการก้าวหน้าระดับโลก ในขณะที่ดิจิทัลของเอเชียกำลังเปิดโอกาสมหาศาล แต่ก็ทำให้เกิดความเสี่ยงใหม่ๆ ตั้งแต่ภัยคุกคามที่ขับเคลื่อนโดย AI ไปจนถึงการเข้ารหัสควอนตัม การจัดการกับความท้าทายเหล่านี้จำเป็นต้องมีความร่วมมือระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยผลักดันอุตสาหกรรมงานแสดงนิทรรศการไปข้างหน้า แต่ยังช่วยปกป้องผู้คนและธุรกิจทั่วโลก”
งาน Cybersec Asia x Thailand International Cyber Week 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-23 มกราคม 2568 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 09:30 – 17:00 น. สามารถลงทะเบียนหน้างานเพื่อรับบัตรฟรี!
——————————————————————————————————————————————————–
สำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ: (วีเอ็นยูฯ) [email protected] โทร 02 1116611 ต่อ 333
88 The PARQ, 4th Fl.Ratchadaphisek Rd., Khlong Toei, Khlong Toei, Bangkok 10110, Thailand
Tel.: +66 2 111 6611
E-mail: [email protected]